อธิบดีดีเอสไอลุยเอง บินดูจุดเข้าออกอุทยาน แก่งกระจาน 5 จุด พบข้อสงสัย คำให้การ จนท.ไม่ตรงข้อเท็จจริง สถาบันนิติวิทย์ยังรอผลตรวจดีเอ็นเอ พร้อมส่งหารือผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศอ่านแปลค่าดีเอ็นเอ
เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวถึงผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ เศษกระดูก คดีฆาตกรรมนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอยว่า ภายหลังผลตรวจพิสูจน์ชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะที่งมขึ้นมาจากร่องน้ำลึกในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานพบว่ามีดีเอ็นเอไมโทรคอนเดียตรงกับนางโพเราะจี รักจงเจริญ มารดาของนายบิลลี่ แต่ดีเอสไอต้องการให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอจากชิ้นส่วนกระดูกที่เหลืออีก 8 ชิ้น เพื่อยืนยันให้ได้ว่าตรงกับดีเอ็นเอของนายบิลลี่หรือไม่ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ทางแล็บ คาดว่าจะทราบผลภายใน 2 สัปดาห์ พ.ต.ท.วรรณพงษ์กล่าวต่อว่า สถาบันนิติวิทยาศาสตร์จะส่งผลการอ่านแปลค่าดีเอ็นเอจากวัตถุพยานไปปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศเพื่อยืนยันว่าการอ่านแปลผลวิเคราะห์ถูกต้องเป็นมาตรฐานสากล อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ามาตรฐานและอุปกรณ์เครื่องมือที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์มีไว้ใช้งานตรวจพิสูจน์อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานสากล ทั่วโลกก็ใช้วิธีการและเครื่องมือตรวจเหมือนกันทั้งหมด จึงขอให้มั่นใจในความเป็นมาตรฐาน ซึ่งตนได้กำชับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ให้ตรวจสอบวัตถุพยานในคดีทุกชิ้นอย่างละเอียดรอบคอบ เนื่องจากเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจและมีผลกระทบกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงกรณีการสอบสวนคดีฆาตกรรมนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอยว่า พรุ่งนี้ (10 ต.ค.) ตนจะลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อบินสำรวจสภาพพื้นที่โดยรวมและจุดเกิดเหตุจากมุมสูง 5 จุด รวมทั้งเส้นทางที่คาดว่าจะมีการนำตัวนายบิลลี่ออกไป โดยเฉพาะเส้นทางเข้า-ออก เพื่อให้เห็นสภาพพื้นที่จริงนำไปประกอบกับข้อมูลพื้นราบ เนื่องจากคำให้การ ในส่วนของกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่ระบุในสำนวนของ ป.ป.ท.ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ที่ตรวจสอบพบ พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวว่า สำหรับคดีนี้มีความคืบหน้าไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว และหลังจากดีเอสไอได้รับสำนวนสอบสวนของ ป.ป.ท. จะนำไปประกอบกับสำนวนเพื่อเป็นประโยชน์ในการสอบสวนต่อไป โดยดีเอสไอจะต้องเรียกสอบปากคำพยานเพิ่มอีก 20 ปาก รวมทั้งสอบปากคำพนักงานสอบสวนของ ป.ป.ท.ด้วย
