จากกรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่อาสาสมัครชุดคุ้มครองตำบลละแอ (อส.ชคต.ละแอ) อ.ยะหา จ.ยะลา ขณะเดินทางกลับจากการร่วมประชุมประจำเดือน ณ ที่ว่าการอำเภอยะหา เหตุเกิดบริเวณเส้นทางถนนสายรองบ้านปาจอ-ละแอ อ.ยะหา จ.ยะลา เมื่อวันที่ 9 ต.ค.2562 เวลา 12.20 น. เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย นั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 ต.ค.2562 ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.วัชรกร อ้นเงิน ผู้ช่วยโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2562 เวลา 12.20 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่อาสาชุดคุ้มครองตำบลละแอ อ.ยะหา จ.ยะลา บริเวณเส้นทางถนนสายรองบ้านปาจอ-ละแอ อ.ยะหา จ.ยะลา ขณะที่กลับจากการประชุมประจำเดือน ณ ที่ว่าการอำเภอยะหา จ.ยะลา
โดยเมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ คนร้ายไม่ทราบจำนวนได้จุดชนวนระเบิดขึ้น แรงระเบิดทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 นาย ซึ่งได้นำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ทราบชื่อภายหลังคือ อส.อุสมัน วอหะ อายุ 31 ปี มีแผลจากสะเก็ดระเบิดบริเวณต้นขาซ้าย และ อส.อับดุลเลาะ จิใจ อายุ 24 ปี มีแผลขนาดเล็กที่บริเวณนิ้วโป้งมือด้านซ้าย
“จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบชิ้นส่วนวัตถุระเบิดลักษณะเป็นกล่องเหล็กขึ้นรูป น้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม มีเหล็กเส้นตัดท่อนเป็นสะเก็ดระเบิด จุดระเบิดด้วยวิทยุสื่อสาร เป็นการวางแบบเร่งด่วน จุดที่วางเป็นโคนต้นไม้ห่างจากถนนประมาณ 5 เมตร หลังจุดระเบิดแล้ว คาดว่าคนร้ายได้ใช้เส้นทางข้ามคลองน้ำขุ่น เพื่อหลบหนีไปทางเขต อ.เมือง จ.ยะลา ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุคาดว่า น่าจะเป็นกลุ่มของนายอิสมาแอ มูซอ ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ ต.ลิดล, ต.เปาะเส้ง อ.เมือง และ ต.บาโงยซิแน ต.ละแอ อ.ยะหา จ.ยะลา” พ.อ.วัชรกรกล่าว
ผู้ช่วยโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังกล่าวอีกว่า ภายหลังเกิดเหตุ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้ดูแลรักษาพยาบาลเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บอย่างดีที่สุด พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ทุกหน่วยเฉพาะกิจเพิ่มมาตรการในการควบคุมพื้นที่ โดยให้หน่วยเฉพาะกิจยะลา สนธิกำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัด ร่วมกับกำลังประจำถิ่นและภาคประชาชน ตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี เพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วต่อไป กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จึงขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชน หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้โดยตรงที่เบอร์สายด่วน 1341 หรือหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
