ตำรวจโชคชัยซิวหนุ่มวิ่งราวกระเป๋า ก่อเหตุคนเดียว 2 เคสติด อ้างเอาเงินไปไถ่จำนำ จยย.-เสพไอซ์
เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู รอง ผบก.น.4 พร้อม พ.ต.อ.จักรภัณฑ์ จันทรอุทัย ผกก.สน.โชคชัย, พ.ต.ท.กันตภณ โพธิ์อ๊ะ รอง ผกก.สส.สน.โชคชัย และ พ.ต.ท.อภิโชค ขนบดี สว.สส.สน.โชคชัย ร่วมกันนำกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย จับกุมตัว นายณัฐวุฒิ โฉมโสภา หรือตั้ม อายุ 32 ปี ผู้ต้องหากระชากกระเป๋า พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 125 ไอ สีขาว ทะเบียน 9กฬ 8788 กรุงเทพมหานคร หมวกกันน็อกแบบครึ่งใบสีดำ เสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และกระเป๋าผู้หญิง 1 ใบ โดยสามารถจับกุมได้บริเวณหน้าอาคารที่พักแห่งหนึ่งในซอยนาคนิวาส 48 แยก 1/1 แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา ตำรวจ สน.โชคชัย ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายสาวว่าถูกคนร้ายเป็นชายรูปร่างสันทัด ผิวดำแดง สำเนียงคนอีสาน อายุ 30-40 ปี วิ่งราวทรัพย์ เงินสด 260 บาท และโทรศัพท์ยี่ห้อ OPPO ราคา 6,900 บาท ไปจากซอยนาคนิวาส 18 แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ต่อมา วันที่ 19 ตุลาคม ก็ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายเป็นชายขับขี่รถจักรยานยนต์ทรงผู้หญิง สีขาว ไม่ติดป้ายทะเบียน สวมหมวกกันน็อกสีดำแบบเต็มใบ เสื้อแขนยาวสีฟ้า กางเกงขาสั้น กระชากกระเป๋าที่ผู้เสียหายวางทิ้งไว้บนรถเข็นไปจากลานจอดรถอาคาร 2 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังบนถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ภายในมีทรัพย์สินมูลค่ากว่า 3 หมื่นบาท
จากนั้น พ.ต.ท.กันตภณ พร้อมด้วย พ.ต.ท.อภิโชค ได้นำกำลังลงพื้นที่จนทราบว่าทั้ง 2 คดีเป็นคนร้ายรายเดียวกัน และได้ตรวจสอบเส้นทางหลบหนีของคนร้ายจนทราบว่าคนร้ายพักอาศัยอยู่ที่อาคารดังกล่าว จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับก่อนรวบตัวได้ดังกล่าว
สอบสวนนายณัฐวุฒิให้การยอมรับสารภาพว่า ติดพนันและเสพยาไอซ์ ก่อนก่อเหตุได้นำรถจักรยานยนต์ไปจำนำไว้แล้วไม่มีเงินใช้ จึงตระเวนก่อเหตุดังกล่าวเองทั้ง 2 ครั้ง โดยมักจะเลือกเหยื่อที่เป็นหญิงสาว ไม่ขัดขืนคิดสู้ เมื่อก่อเหตุครั้งแรกเสร็จก็ได้นำทรัพย์สินที่ได้ไปขายจนหมด และนำเงินไปไถ่รถออกมาก่อเหตุซ้ำในครั้งที่ 2 และนำเงินที่ได้ไปซื้อยาเสพติดมาเสพ ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบประวัติผู้ต้องหายังพบว่า ในปี 2546 มีประวัติคดีลักทรัพย์ในท้องที่ สน.หนองแขม และเสพยาไอซ์พื้นที่ จ.อำนาจเจริญ
อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อหา “วิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นจากการจับกุม” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.ท.กัณตภณกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นคนละคดีกับคดีที่หนุ่มแว่นก่อเหตุใช้รถจักรยานยนต์วิ่งราวทองคำรวม 24 เส้น มูลค่ากว่า 5 แสนบาทไปจากร้านทองในห้างย่านวังหิน ว่าขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัว ส่วนทองของกลางนั้นได้ประชาสัมพันธ์ไปยังร้านทองต่างๆ ให้คอยสังเกตว่าเป็นทองที่ได้จากร้านผู้เสียหายหรือไม่
