เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม นายนิพนธ์ จันทเวช เลขาธิการสภาทนายความฯ ในฐานะโฆษกสภาทนายความ กล่าวถึงกรณีนายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา มีดำริให้ศาลพิจารณาประกันตัววันหยุด ว่า ตรงนี้ถ้าเป็นความเห็นของนักกฎหมายสภาทนายความและประชาชนขอเรียนว่าสนับสนุนแนวคิดนี้และเรียกร้องตรงนี้มานานแล้วว่าศาลควรจัดผู้พิพากษามานั่งทำงานในวันหยุดเพื่อพิจารณาเรื่องการประกันตัว การที่นายไสลเกษ ประธานศาลฎีกามีดำริหรือกำชับมาเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในส่วนของผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญาที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษา ซึ่งในทางกฎหมายยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาฉะนั้นการให้สิทธิให้มีการพิจารณาปล่อยชั่วคราวระหว่างวันหยุดจึงเป็นการให้สิทธิกับประชาชนจึงเป็นเรื่องที่ดีมากถ้าประธานศาลฎีกาเห็นด้วยก็ยินดีและขอขอบคุณเเทนประชาชน
“อย่างในสมัยก่อนผู้มีอำนาจก็จะมีการกลั่นแกล้งกันกับประชาชน เช่น มีการจับกุมตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยในวันศุกร์ตอนเย็นที่ไม่มีค่อยมีเจ้าหน้าที่หรือประกันตัวลำบากเเล้ว ก็อาจจะส่งผลให้มีผู้ต้องถูกขังก่อน1-2วันจึงจะได้รับการพิจารณาว่าจะได้ปล่อยประกันหรือไม่ ในวันเปิดราชการ บางคนอาจไม่เคยติดคุกมาก่อนหรือไม่ได้กระทำความผิดจริงไปติดแค่1-2วันก็ทุกข์ใจสาหัสแล้ว การที่จะให้พิจารณาประกันวันหยุดในแง่มุมสิทธิเสรีภาพถือว่าดีมาก”นายนิพนธ์กล่าวว่า
นายนิพนธ์กล่าวว่า ประเด็นนี้อยากจะเสนอแนะอีกว่าประธานศาลฎีกาควรจะมีการออกข้อกำหนดให้ชัดเจนสำหรับผู้ปฏิบัติเพื่อผู้พิพากษาจะได้กล้าปฏิบัติ อีกเรื่องที่อยากสื่อถึงก็เป็นกรณีที่จำเลยที่ถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกโดยเรื่องการประกันตัวเท่าที่ปรากฏ ส่วนมากศาลชั้นต้นจะมีการส่งให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณาเรื่องประกันตัวในชั้นอุทธรณ์หรือถ้าเป็นศาลอุทธรณ์ก็จะมีการส่งให้ศาลฎีกาเป็นผู้พิจารณา ศาลชั้นต้นไม่กล้าสั่งประกันเอง แม้ในปัจจุบันนี้จะมีการส่งคำสั่งให้ศาลสูงพิจารณาด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีความรวดเร็วยิ่งขึ้นแต่ในบางคดีก็ยังใช้ระยะเวลาในการพิจารณาพอสมควร ก็อยากเสนอให้ประธานศาลฎีกามีการออกข้อกำหนดให้ชัดเจนเลยในเรื่องที่ว่าหากเป็นคดีที่ไม่ได้ร้ายแรงมากก็อยากให้ศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจพิจารณาสั่งปล่อยชั่วคราวหรือไม่ ได้เลย เเต่หากเป็นเรื่องร้ายเเรงมากก็ให้ดูเป็นกรณีไป ตรงนี้อยากให้มีข้อกำหนดชัดเจนที่ตัวผู้ปฏิบัติจะได้มีความกล้าในการปฏิบัติได้
