เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 13 มิถุนายน ที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย นักกิจกรรมเพื่อสิทธิความหลากหลายทางเพศ เดินทางมาร่วมไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์กราดยิงที่พัลส์คลับ เมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เมื่อเช้ามืดวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีผู้เสียชีวิต 50 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 53 คน โดยพัลส์คลับ เป็นคลับคนรักเพศเดียวกันที่มีคำโฆษณาระบุไว้ว่า “บาร์เกย์ที่ร้อนแรงที่สุดในออร์แลนโด” และเหตุดังกล่าวนับเป็นเหตุกราดยิงที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้าสถานทูตมีการแขวนธงสีรุ้งซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ LGBT โดยผู้ร่วมงานได้วางดอกไม้และข้อความไว้อาลัย จากนั้น นายกลิน เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐออกมาร่วมพูดคุยกับผู้จัดกิจกรรม โดยนายกลินกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุที่น่าเศร้าใจ ตนรู้สึกเศร้าสลดที่เกิดการกราดยิงและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แปลกใจที่คนไทยให้ความสำคัญและจัดงานนี้ขึ้นมา จึงรู้สึกซาบซึ้งและขอขอบคุณทุกท่าน ขอร่วมกันแสดงไว้อาลัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากนั้นนายกลินจึงจุดเทียนและร่วมไว้อาลัยบริเวณหน้าธงสีรุ้ง ประชาชนจึงทยอยเดินทางมาวางดอกไม้ จุดเทียนและเล่นดนตรีรำลึก
นายไพศาล ลิขิตปรีชากุล กรรมการมูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ กล่าวว่า คนในสังคมไทยไม่ได้คิดถึงการใช้ความรุนแรงต่อผู้มีความหลากหลายทางเพศ ทั้งที่จริงแล้วมีการใช้ความรุนแรงเรื่อยมา อย่างการรังแกกันในโรงเรียน การพูดเสียดสี ใช้คำด่าว่า ใช้ความรุนแรงต่อผู้มีอัตลักษณ์หลากหลาย สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสหรัฐส่วนหนึ่งเกิดจากการเข้าถึงอาวุธปืน แม้ในไทยสามารถเข้าถึงอาวุธปืนได้ยากกว่าแต่ก็ยังมีการมองเรื่องความแตกต่างทางอัตลักษณ์ จิตแพทย์จำนวนมากยังมองว่าการเป็นกะเทยเป็นโรคจิต หลักสูตรสุขศึกษาในโรงเรียนก็บอกว่าคนรักเพศเดียวกันเป็นคนเบี่ยงเบนทางเพศ ผิดปกติ มีการเลือกปฏิบัติเกิดขึ้นตลอดมาในสังคมไทย
น.ส.พิมพ์สิริ เพชรน้ำรอบ นักกิจกรรมผู้เข้าร่วมงาน กล่าวว่า ในไทยอาจจะไม่มีความรุนแรงเช่นที่เกิดในสหรัฐ แต่ปัญหาคือสังคมไทยรู้สึกทนได้ที่จะอยู่ร่วม แต่ไม่ยอมรับอย่างเป็นทางการ มีการกีดกันในอาชีพที่ต้องใช้ความน่าเชื่อถือ หรือกระทั่งการรับรองทางกฎหมาย
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นรูปแบบหนึ่งของการก่อการร้าย แต่ปัญหาก็คือทำไมต้องมุ่งเป้ามาที่กลุ่ม LGBT ขณะที่นายบารัค โอบามา เองก็พูดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีเหตุมาจากองค์ประกอบทั้งสองอย่าง คือทั้งเรื่องการก่อการร้ายและความเกลียดชังในกลุ่ม LGBT” น.ส.พิมพ์สิริกล่าว