ตร.งัดมาตรการ’สืบสวน-ป้องกันเหตุ-ปราบปรามจับกุม’รักษาความปลอดภัยงานประชุมสุดยอดอาเซียน

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร). พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้ช่วยผู้อำนวยการ กองอำนวยการร่วม การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 ได้มีวิทยุคำสั่งด่วนที่สุด ถึง ผบช.น.,ภ.1-9,ตชด.,ทท.,สยศ.ตร.,สกบ.,สพฐ.ตร.,สงป.,พตร.,ผบก.สท.,ตท. โดยมีใจความระบุว่า เพื่อให้การรักษาความปลอดภัย การอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และพิธีการคนเข้าเมือง ในการจัดประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 (31 ตุลาคม-4 พฤศจิกายน) เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ จึงกำหนดมาตรการให้ทุกหน่วยในสังกัดถือปฏิบัติ ดังนี้

“มาตรการสืบสวน” ให้ บช.ส.เป็นหน่วยหลักในการสืบสวนหาข่าว ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ รับผิดชอบและประสานข้อมูลกับประชาคมข่าว บช.น. และ ภ.1 อย่างใกล้ชิด ตลอดจนประสานงานด้านการข่าวกับ กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า รายงานข้อมูลต่างๆ ให้กองอำนวยการร่วม (กอร.) ทราบทุกวัน, เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และจัดชุดเจ้าหน้าที่สืบสวนหาข่าวบุคคลหรือกลุ่มบุคคลทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่เข้ามาพักอาศัยในพื้นที่รับผิดชอบ โดยแบ่งพื้นที่รับผิดชอบให้ชัดเจนตรวจสอบได้, ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ให้สามารถใช้งานและบันทึกข้อมูลได้ โดยประสานการปฏิบัติกับทุกภาคส่วน ตลอดจนจัดทำฐานข้อมูลกล้องวงจรปิดให้เป็นปัจจุบัน สามารถใช้ประโยชน์ในทางสืบสวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ, ดำเนินการด้านการข่าว รวบรวมข้อมูลข่าวสาร วงรอบการข่าว ให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลที่จะมาก่อเหตุร้ายในประเทศไทย หากพบสิ่งบอกเหตุ บุคคลต้องสงสัย ที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคง ให้รายงานและประสานข้อมูลการสืบสวนกับหน่วยที่รับผิดชอบทันที

“มาตรการป้องกันเหตุ” ให้ตรวจสอบอาวุธ ยุทโธปกรณ์ ยุทธภัณฑ์ สิ่งอุปรกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ในความครอบครองของหน่วยให้ครบตามอัตราที่ได้รับ และเป็นไปตามระเบียบของทางราชการ, กำหนดมาตรการในการตรวจตราสถานที่สำคัญของทางราชการ สถานที่เชิงสัญลักษณ์ พระบรมมหาราชวัง สถานทูต สถานกงศุล สถานเอกอัครราชทูต(โดยเฉพาะประเทศเข้าร่วมการประชุม หรือประเทศคู่ขัดแย้ง) ระบบขนส่งมวลชน สถานีขนส่งสาธารณะ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ในพื้นที่รับผิดชอบให้มีประสิทธิภาพ, ให้ บช.ก.(บก.ป.) และ ทท. จัดรถยนต์วิทยุสายตรวจ ประจำจุดเสี่ยง 24 ชั่วโมง และให้ทุกหน่วยจัดสายตรวจเดินเท้า สายตรวจจักรยานยนต์ ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ, ตั้งจุดตรวจจุดสกัด ด่านความมั่นคง ในเส้นทางหลัก หรือเส้นทางสุ่มเสี่ยงที่อาจมีการลักลอบสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ โดยเน้นการตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะต้องสงสัย และให้ทำการตรวจสอบประวัติและหมายจับบุคคล ข้อมูล หมายเลขทะเบียนรถต้องสงสัย ทั้งนี้ให้ ภ.9 จัดส่งข้อมูลดังกล่าวมาที่ ศปก.ตร., ตรวจสอบร้านจำหน่ายวัสดุเคมีภัณฑ์ ที่อาจนำมาใช้ในการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ต่างๆ, ให้ สตม. เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบบุคคลที่จะเข้ามาในราชอาณาจักร บุคคลต้องห้าม บุคคลเฝ้าระวัง บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง

“มาตรการปราบปรามจับกุม” กำหนดเป้าหมายปิดล้อมตรวจค้น เพื่อระดมกวาดล้างอาชญากรรม โดยเฉพาะเป้าหมายบุคคลที่ครอบครองอาวุธปืน เครื่องกระสุน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด ยาเสพติด, ตรวจสอบสถานบริการ ร้านจำหน่ายสุรา แหล่งมั่วสุม โดยเน้นการตรวจบุคคลและยานพาหนะต้องสงสัย, ควบคุมอาชญากรรมในพื้นที่ให้เรียบร้อย ตรวจสอบได้

Advertisement

“การเตรียมความพร้อมด้านหน่วยสนับสุน” ให้ รพ.ตร.จัดเตรียมทีมแพทย์และให้บริการรองรับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน โดยให้มีเจ้าหน้าที่ให้บริการด้านการแพทย์ตลอด 24 ชั่วโมง และเพียงพอต่อสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น, สกบ. และ ตชด. กำชับชุดปฏิบัติการตรวจพิสูจน์ เก็บกู้ และทำลายวัตถุระเบิดที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ เตรียมความพร้อมกำลังพล อุปกรณ์ ยานพาหนะ และสนับสนุนการปฏิบัติได้ทันทีเมื่อได้รับการร้องขอหรือสั่งการ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image