เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม. พล.ตต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1 พ.ต.อ.เจนกมล คำนวล รอง ผบก.ตม.1 และ พ.ต.อ.ชัชวาลย์ ทิพย์พิชัย ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 พร้อมชุดสืบสวน ร่วมแถลงการจับกุมคนต่าวด้าว 6 ราย เป็นชาวเมียนมาและกัมพูชา ในข้อหา “เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด และเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต” และ “เป็นคนต่างด้าวทำงานนอกเหนือสิทธิจะทำได้” และคนไทย 3 ราย ในข้อหา “เสพสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)” หลังสืบทราบว่ามีร้านนวดสปาสำหรับผู้ชาย ตั้งอยู่บริเวณชอยสวนพลู ถนนสาทรใต้ เขตสาทร กรุงเทพฯ เปิดให้บริการกับบุคคลทั่วไปโดยโฆษณาผ่านสื่อโซเชียล 
พล.ต.ต.อิทธิพลกล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าร้านสปาแห่งนี้ ลงรูปผู้ชายที่อ้างว่าเป็นพนักงานนวดของทางร้านกว่า 60 คน ภาพถ่ายพนักงานส่วนใหญ่ไม่สวมเสื้อ เผยสรีระท่อนบนทั้งหมด และพนักงานนวดบางคนสวมกางเกงในเพียงตัวเดียว โดยพนักงานบางคนมีลักษณะรูปร่างหน้าตาคล้ายคนต่างด้าว เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้จัดกำลังแฝงตัวเข้าไปสืบสวนหาข่าว จนทราบว่าร้านนวดสปาดังกล่าวใชัพนักงานนวดทั้งหมดเป็นผู้ชาย ทั้งคนไทยและคนต่างด้าว ทุกคนผ่านการคัดเลือกว่าต้องรูปร่างหน้าตาดีเพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้าให้สนใจมาใช้บริการ ส่วนการให้บริการนวดสปาให้บริการทั้งลูกค้าชายและหญิงในห้องนวดที่หรูหราและเป็นส่วนตัว เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สืบสวน บก.ตม.1 ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบร้านนวดสปาดังกล่าว พบว่าภายนอกอาคาร ได้จัดทำสวนหย่อม น้ำพุ สถานออกกำลังกาย และที่สำหรับพักรอของลูกค้าที่มาใช้บริการ ส่วนภายในอาคารจะพบบาร์ และพื้นที่สำหรับนั่งรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม และมีห้องกระจกสูงยาวต่อไปถึงชั้น 2 ของอาคาร ภายในห้องกระจกมีพนักงานนวดชายกว่า 20 คน ส่วนใหญ่ไม่สวมเสื้อนั่งรอให้ลูกค้าเรียกเพื่อไปให้บริการนวด และมีการแยกห้องนวดเป็นห้องเล็กมากกว่า 20 ห้อง จากการตรวจสอบพบพนักงานชาวไทย 3 คน ปัสสาวะเป็นสีม่วง จึงแจ้งข้อหาเสพยาเสพติด พล.ต.ต.อิทธิพลกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ภายในร้านสปาดังกล่าว ยังพบว่ามีการขายถุงยางอนามัย และสารหล่อลื่น ไว้ให้บริการกับลูกค้าที่มาใช้บริการด้วย ภายหลังการแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิของผู้ต้องหาให้ทั้งหมดทราบ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ถูกจับที่1-6 ส่งพนักงานสอบสวน บก.สตม. และนำผู้ถูกจับที่ 7-9 ส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
