เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 12 พฤศจิกายน ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม.พร้อม พ.ต.อ.รัชพงศ์ เตี้ยสุด ผบก.สส.บก.ตม.3,พ.ต.ท.วีระศักดิ์ วงศ์ป้อม รอง ผกก.ตม.จว.สมุทรปราการ และ พ.ต.ท.หญิง ปราถนา นิจรี รอง ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี ร่วมแถลงการจับกุม 3 ผู้ต้องหาในคดีความผิดเกี่ยวกับการปลอมแปลงเอกสาร และผู้ต้องหาต่างด้าวหลบหนีหมายจับ
โดยคดีแรก จับกุมนายเชิน ยิง(MR.CHEN YING) อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาชาวจีนหลบหนีหมายจับคดีฉ้อโกงเงินธนาคาร และปลอมแปลงเอกสารอื่นๆ จนเกิดความเสียหายกว่า 17 ล้านหยวน หรือประมาณ 85 ล้านบาท
พล.ต.ต.สุรพงษ์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อปี 2556 ที่ประเทศจีน นายเชิน ได้นำสัญญาทางธุรกรรมปลอม งบการเงินปลอม และเอกสารอื่นๆ ไปยื่นขอกู้เงินจากธนาคารจนเกิดความเสียหายร่วม 17 ล้านหยวน ต่อมาในปี 2557 นายเชิน ได้หลบหนีเข้าสู่ประเทศไทย กระทั่งสำนักงานอัยการเมืองฝูอัน ได้อนุมัติออกหมายจับนายเชิน ในคดีฉ้อโกงได้ในปี 2560 ต่อมา ตม.จว.สมุทรปราการ พบข้อมูลว่านายเชิน ได้เข้ามาโดยใช้วีซ่าประเภทพักฟื้น และขาดการต่อวีซ่าตั้งแต่ปี 2557 จึงเข้าจับกุมได้บริเวณ ซ.นาเกลือ 16 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สอบสวนให้การรับสารภาพ ก่อนแจ้งข้อหา “เป็นต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง ดำเนินคดี
พล.ต.ต.สุรพงษ์ กล่าวคดีต่อมา จับกุมนายอนันท์ คนเที่ยง อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ข้อหา “ปลอมเอกสารราชการและตราประทับเจ้าหน้าที่” หลังตำรวจตรวจสอบข้อมูลของชาวต่างด้าวที่มารายงานตัวอยู่เกินกำหนด แต่ไม่สามารถบันทึกข้อมูลลงระบบได้ เนื่องจากเอกสารที่นำมาใช้เป็นของปลอมซึ่งมีนายอนันท์ เป็นผู้ดำเนินการ
ต่อมา ชุดสืบสวน ตม.จว.สมุทรปราการ ทราบเบาะแสของนายอนันท์ ก่อนเข้าจับกุมได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก่อนพาไปตรวจค้นห้องพักในอพาร์ทเมนต์ ที่ ซ.อ่อนนุช 53 แขวงเขตประเวศ ยึดอุปกรณ์
สอบสวนนายอนันท์ รับว่าได้ปลอมเอกสารดังกล่าวให้ชาวต่างด้าวจริง โดยเรียกเก็บค่าดำเนินการคนละ 60 บาท หากอยู่เกินกำหนด 90 วัน เรียกเก็บ 300 บาท ซึ่งได้ทำมาแล้วตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีคนใช้บริการกว่า 400 ราย เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวส่ง สภ.เมืองสมุทรปราการ ดำเนินคดี
พล.ต.ต.สุรพงษ์ กล่าวอีกว่า คดีนี้ จับกุมนายโซ ตุน อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาชาวเมียนมาหลบหนีหมายจับในคดีทำเหมืองพลอยเถื่อน มูลค่าความเสียหายนับพันล้านบาท เข้ามากบดานในประเทศไทย โดยจับกุมได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านศาลเข้าพ่อเสือ เขตพระนคร กทม.ภายหลังได้รับการประสานงานจากทางการเมียนมา ซึ่ง ชุดสืบสวนปราบปราม บก.ตม.2 พบเบาะแสภาพจากกล้องวงจรปิดของนายโซ ระหว่างเดินทางมาส่งครอบครัวกลับประเทศ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จากนั้นจึงแกะรอยติดตามจับกุมได้ที่โรงแรมดังกล่าว ก่อนส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศต้นทางต่อไป
