‘มึนอ’ ภรรยาบิลลี่ รับผวาผู้ต้องหาได้ประกันตัว อยู่อย่างหวาดระแวง หวั่นอิทธิพลมืด

กรณีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติหมายจับ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้ต้องหาที่ 1, นายบุญแทน บุษราคำ ผู้ต้องหาที่ 2 และนายธนเสฏฐ์ หรือนายไพฑูรย์ แช่มเทศ ผู้ต้องหาที่ 3 และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ รวม 4 คน คดีฆาตกรรม และปิดเร้นอำพรางศพ นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ ต่อมา นายชัยวัฒน์ พร้อมพวก เข้ามอบตัว ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมง โดยพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำทำประวัติ พิมพ์ลายนิ้วมือ แจ้งข้อหาให้ผู้ต้องหารับทราบ ทั้งนี้ ผู้ต้องหาไม่ประสงค์ให้การในชั้นพนักงานสอบสวน ขอให้การในชั้นศาล พนักงานสอบสวนจึงนำตัวส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่ออนุญาตฝากขังนายชัยวัฒน์และพวก ต่อมาศาลอนุมัติฝากขัง และได้ให้ประกันตัวไปรายละ 800,000 บาทนั้น

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มึนอ ภรรยานายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ ระบุว่า ส่วนตัวยังรู้สึกดีที่ยังมีความยุติธรรมหลงเหลือให้พวกตนบ้าง และขอบคุณดีเอสไอที่ทำคดี จนนำมาสู่การแจ้งข้อหา แต่รับว่าคดีก็ยังไม่ถึงที่สิ้นสุด ตนก็ยังต้องสู้ต่อ ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวออกมา ส่วนตัวยอมรับว่ารู้สึกไม่ปลอดภัยในเรื่องอิทธิพลมืด ประกอบกับพฤติการณ์ในลักษณะข่มขู่ อย่าง เมื่อ 3 เดือนก่อนบริเวณหน้าบ้านตน มีคนขี่รถจักรยานยนต์มาวนเวียนหน้าบ้าน และมีการถ่ายรูปไว้ และพุ่มไม้หน้าไม้เหมือนมีคนซุ่มอยู่ ทำให้พวกตนใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง ไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างปกติ ซึ่งล่าสุดวันนี้ตัวเองก็มีโอกาสได้พบหน้านายชัยวัฒน์ แต่ก็ไม่ได้พูดคุยและไม่ได้รู้สึกอะไร ทั้งนี้ส่วนตัวไม่ได้เจาะจงว่าใครเป็นคนทำสามี แต่ก็คิดว่าเป็นเจ้าหน้ารัฐ ซึ่งก็อยากให้คนทำออกมารับผิดชอบ ขณะที่ทางดีเอสไอก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลรักษาความปลอดภัย ซึ่งรู้สึกว่าขณะนี้เพียงพอแล้ว

ขณะที่ น.ส.วราภรณ์ อุทัยรังษี อายุ 36 ปี ทนายความ กล่าวถึงเรื่องที่กลุ่มผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว ว่า พวกตนก็ยอมรับในดุลยพินิจของศาล ซึ่งยอมรับว่าจุดอ่อนที่ทำให้คำร้องขอศาลคัดค้านการประกันของพวกตนน้ำหนักไม่เพียงพอ เป็นเพราะไม่มรหลักฐานที่จะมาแสดงให้เห็นว่่ากลุ่มผู้ต้องหาจะเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ประกอบกับผู้ต้องหาเองก็ไม่ได้มีพฤติกรรมหลบหนี โดยหลังจากนี้ยังต้องรอการรวบรวมพยานหลักฐานของดีเอสไอ ก่อนส่งอัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image