เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ร.ต.อ.บุญลือ ทางตรง รอง สว.(สอบสวน)สน.ทุ่งมหาเมฆ รับแจ้งเหตุรถเมล์ชนท้ายกันบริเวณปากซอยพระราม3 ซอย 78 ถนนพระราม3 มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงรุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุพร้อม อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดอยู่ริมถนนบริเวณปากซอยพบ รถเมล์ยี่ห้อมิตซูมิชิ สีครีมแดง สาย195 วิ่งระหว่างวัดสวน-คลองเตย หมายเลขทะเบียน 11-8703 กรุงเทพมหานคร มีรอยชนที่บริเวณด้านหน้าซ้าย กระจกหน้ารถแตกร้าว ถัดออกไปด้านหน้า พบรถเมล์อีกคัน ยี่ห้อมิตซูมิชิ สีครีมแดง สาย 205 วิ่งระหว่าง คลองเตย-ถนนตก หมายเลขทะเบียน 11-8263 กรุงเทพมหานคร มีรอยชนเข้าที่บริเวณด้านรถด้านซ้าย. เบื้องต้นจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลตามตัว จำนวน 11 ราย อาสาสมัครนำส่ง รพ.เจริญกรุงฯ 4 ราย รพ.กล้วยน้ำไท1 3 ราย และ รพ.จุฬา 4 ราย
สอบสวนนายประมูล ศรีละคร อายุ 51 ปี โชเฟอร์ รถเมล์สาย 205 ให้การว่า ตนขับรถเมล์คันดังกล่าวมาจากคลองเตยในเลนซ้ายสุดโดยมีรถเมล์สาย195 ขับตามกันเรื่อยมา กระทั่งมาถึงยังช่วงที่เกิดเหตุซึ่งบริเวณเกาะกลางถนนมีการก่อสร้างสะพานข้ามแยกสุนทรโกษา จู่ๆ รถ 10 ล้อบรรทุกดินของโครงการก่อสร้างดังกล่าวก็เลี้ยวออกมาจากไซส์งานก่อสร้างปาดหน้ารถเมล์ของตน อย่างกระชั้นชิดตนเหยียบเบรคอย่างแรงก่อนที่รถเมล์สาย195 ที่ขับตามมาจะเบรคไม่อยู่ชนท้ายเข้าอย่างจัง
ด้านน.ส.วารุณี พิกุลแก้ว อายุ 19 ปี พนักงานเก็บค่าโดยสารรถเมล์สาย195 เผยว่า ขณะที่รถเมล์คันของตนขับตามท้ายรถเมล์สาย205 มาเรื่อยๆนั้น จู่ๆก็มีรถบรรทุกดินตัดหน้ารถเมล์สาย205 รถคันของตน คนขับได้เหยียบเบรคสุดแรงแต่เบรคไม่อยู่ โชเฟอร์ตะโกนขึ้นมาว่าเบรคไม่อยู่แล้ว ก่อนจะมีเสียงดังโครม ทำให้ผู้โดยสารภายในรถล้มกระจัดกระจายได้รับบาดเจ็บ
ขณะที่นางปราณี ชัยศรี 40 พยานที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเห็นรถบรรทุกดินขับออกมาจากไซส์งานก่อสร้างมาปาดหน้ารถเมล์โดยที่ไม่มีคนงานหรือเจ้าหน้าที่คนไหนออกมาโบกธงหรือโบกรถเพื่อให้รถบรรทุกที่ทำงานในไซส์งานก่อสร้างออก และมักมีเหตุการณ์ ลักษณะนี้หลายครั้งตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเพราะตั้งแต่มีการก่อสร้างโครงการดังกล่าวไม่เคยมีคนมาดูแลจริงจัง บางครั้งมีเศษดินตกหลบบนผิวทางหลายครั้ง ทำให้รถจยย.สัญจรมาก็พลิกคว่ำบ้าง ครั้งนี้อีกเช่นกันที่ไม่มีคนงานที่คอยโบกหยุดรถเพื่อให้รถบรรทุกเข้าออกไซส์งานก่อสร้างเลย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลื่อนย้ายรถทั้ง2 คันออกจากที่เกิดเหตุแล้ว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเดินทางเพื่อสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุเพื่อสรุปสาเหตุที่แจ้งจริงหากพบว่าเป็นความประมาทของผู้ใดก็จะแจ้งข้อหากับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
