ชาวถ้ำน้ำผุดรวมตัวขอตรวจสอบที่ดินรัฐ หลังพบนายทุนออกโฉนดในเขตป่าชายเลน (ชมคลิป)

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมนึก ระฆัง ทนายความผู้รับมอบอำนาจ นำชาวบ้านเมืองพังงา จำนวนกว่า 20 คน ต่างถือป้ายเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ พร้อมเข้ายื่นหนังสือปรึกษาหาข้อเท็จจริง กรณีที่ดินจำนวน 7 แปลง เนื้อที่ 59 ไร่ ซึ่งถูกอ้างสิทธิจากกลุ่มทุน ทั้งที่เข้าใจว่าอยู่ในเขตป่าชายเลน วังหม้อแกง ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา ต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพังงา โดยมี นายวิรัช ตั่นสกุล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดพังงา พร้อมด้วย นายรุจน์ ทองขจร หัวหน้าสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 20 วังหม้อแกง พังงา เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพังงา เจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดพังงา และ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพังงา เข้าร่วมการพูดคุย

โดยทางชาวบ้าน ได้ยื่นข้อร้องเรียนขอให้ทางจังหวัดพังงาตรวจสอบที่ดินดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในเขต หมู่ 3 ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมืองพังงา ซึ่งชาวบ้านถือครองอยู่ก่อนที่ส่วนราชการออกเอกสารสิทธิให้แก่ บริษัทแห่งหนึ่ง ขณะชาวบ้านไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้ ทั้งที่ที่ดินเดิมเป็นที่สาธารณประโยชน์ และเป็นป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรี ปี 30 ทำให้เกิดข้อพิพาท อีกทั้งบริษัทเอกชนที่อ้างสิทธิ์ดังกล่าว ได้ขายให้กับภาครัฐ เพื่อก่อสร้างสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดพังงา

ต่อมามีการตรวจสอบจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พบมีการออกโฉนดโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ออกโฉนดในที่ดินบนที่ดินป่าชายเลน โดยทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ยื่นหนังสือขอให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ทั้ง 7 แปลง เนื้อที่ 59 ไร่ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมที่ดิน ชาวบ้านที่เข้ายื่นหนังสือพร้อมขอให้ภาครัฐดำเนินการตรวจสอบการได้มาของที่ดินดังกล่าว ชอบหรือมิชอบโดยกฎหมายหรือไม่ อย่างไร เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 20 วังหม้อแกง พังงา ยอมรับว่ามีการตรวจสอบที่ดินพบว่ามีเอกสารยืนยันว่าเป็นที่ดิน ป่าชายเลนตามมติ ครม. ส่วนขั้นตอนการเพิกถอนอยู่ในชั้นของทางกรมที่ดิน

ผลสรุปของการร่วมกันแก้ปัญหาชาวบ้านถ้ำน้ำผุด ในครั้งนี้ ทางหัวหน้าสำนักงานจังหวัดพังงา ได้เสนอตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีออกเอกสารสิทธิ์โดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ อย่างไร ซึ่งให้ระยะเวลา กรรมการสอบฯภายใน 3 เดือน และสามารถขยายเวลาได้อีก 30 วัน จากนั้นผลเป็นประการใดให้ชาวบ้านและหน่วยงานภาครัฐเข้ามาร่วมรับฟังเพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป

Advertisement

ด้าน นายบัญชา ถิ่นลิพอน ชาวบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า ตนเองเป็นรายหนึ่งที่เป็นคู่ความกับทางบริษัทที่อ้างเอกสารสิทธิ์และต่อสู้กันมายาวนาน กระทั่งมีเอกสารยืนยันว่า การออกเอกสารสิทธิ์ให้กลุ่มทุนไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากมีเอกสารไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่กล่าวว่า ที่ดินดังกล่าวอยู่นอกพื้นที่ของรัฐ คือ นอกเขตป่าชายเลน ทั้งที่ความเป็นจริงอยู่ในเขตป่าชายเลน ตามมติ ครม.ปี 30 โดยถือว่าเจ้าหน้าที่บางรายพยายามใช้อำนาจหน้าที่ส่อไปในทางมิชอบ เรื่องนี้จึงต้องมีคำตอบให้ประชาชนรับรู้ข้อเท็จจริง

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image