โจ๋บุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร แต่พลาดท่าเจอคนจริง กระชากร่วงหัวทิ่ม แจ้งตร.จับทันควัน(คลิป)

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 2 ธันวาคม พ.ต.ท.นิรันดร์ โสมะคุณานนท์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.คลองตัน รับแจ้งเหตุคนร้ายชิงทรัพย์ธนาคารทหารไทย สาขาถนนพัฒนาการ เลขที่ 1522 และ 1524 ซอยพัฒนาการ 48 แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น., พล.ต.ต.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย ผบก.น.5, พ.ต.ท.เรวัช ราชสังข์ รอง ผกก.สส.สน.คลองตัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.คลองตัน ธนาคารที่เกิดเหตุอยู่ปากซอยพัฒนาการ 48 ติดริมถนนพัฒนาการฝั่งขาเข้า ซึ่งพนักงานธนาคารดังกล่าวพร้อมพลเมืองดีสามารถควบคุมตัวคนร้ายไว้ได้ ทราบชื่อต่อมาคือ นายพิชิต ศรีใสคำ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาถูกล็อกตัวไว้เพื่อรอเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ยังพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟไอ สีขาวคาดแดง ไม่สวมแผ่นป้ายทะเบียน จอดติดเครื่องตั้งขาคู่ อาวุธปืนปลอมสีดำ 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 1 นัด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง คีม 1 อัน สนับมือ 1 อัน กระเป๋าใบใหญ่สีเทา 1 ใบ เสื้อแจ๊กเก็ตไลน์แมน หมวกกันน็อกเต็มใบสีน้ำเงินแดง 1 ใบ ก่อนจะคุมตัวพร้อมของกลางทั้งหมดมาสอบสวนต่อยัง สน.คลองตัน

พล.ต.ต.ปิยะเปิดเผยว่า จากการสอบปากคำพนักงานธนาคารทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 14.40 น. ขณะที่ตนกับพนักงานคนอื่นอีก 3-4 คน กำลังปฏิบัติหน้าที่บริการลูกค้าที่มาใช้บริการบริเวณหน้าเคาน์เตอร์ ก่อนมีคนร้ายเป็นชายสูงประมาณ 160-165 ซม. ขับรถจักรยานยนต์มาจอดติดเครื่องไว้บริเวณด้านหน้าธนาคาร สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ แจ๊กเก็ตสีดำแขนยาว เดินเข้ามาและพยายามกระโดดเข้ามาภายในเคาน์เตอร์ พร้อมกับตะโกนว่า “นี่คือการปล้น” หลังจากสิ้นเสียงของคนร้าย ตนจึงคว้ากระเป๋าคาดหน้าอกของคนร้ายจนเสียหลักล้มลงมาในเคาน์เตอร์ จากนั้นได้ตะโกนให้เพื่อนพนักงานและพลเมืองดีเข้ามาควบคุมตัวก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุมตัวดังกล่าว

Advertisement

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ทำเป็นครั้งแรก ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ขับรถจักรยานยนต์ตระเวนดูธนาคารต่างๆ ในบริเวณใกล้เคียงแล้ว 2-3 แห่ง ก่อนจะมาดูที่ธนาคารดังกล่าวพบว่าไม่มีพนักงานรักษาความปลอดภัยจึงตัดสินใจลงมือเข้าไปก่อเหตุ ส่วนสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุเนื่องจากไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้องพักเป็นเวลา 2 เดือน ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวคนร้ายไปค้นห้องเช่าในซอยรามคำแหง 1/1 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมไม่พบว่าผู้ต้องหาเคยก่อเหตุอาชญากรรมแต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “พยายามชิงทรัพย์, พกพาสิ่งเทียมอาวุธปืน” ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน

รายงานแจ้งว่า ธนาคารดังกล่าวเคยถูกก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาแล้วเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2561 ซึ่งคนร้ายก่อเหตุโดยสวมหมวกกันน็อกสีขาวเต็มใบ และใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงินเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ได้เงินสดไปจำนวน 105,320 บาท หลบหนีไป ก่อนจะถูกจับกุมตัวได้ที่บ้านพักย่านสมุทรปราการช่วงเย็นของวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image