เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 20 มิถุนายน ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ปอท.) น.ส.ชลลดา เมฆราตรี อายุ 39 ปี หรือเก๋ นางแบบและประธานมูลนิธิเดอะวอยซ์เสียงจากเรา พร้อมนายบวรนนท์ ลีนิวา ทนายความมูลนิธิฯ เข้าพบ พ.ต.อ.สมพร แดงดี รอง ผบก.ปอท. ร.ต.อ.สมบัติ สมบัติโยธา รอง สว.(สอบสวน)กก.3 เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่ใช้เฟซบุ๊กโพสต์และแชร์ข้อความว่ารายการช่วยเหลือสัตว์ของมูลนิธิดังกล่าวใช้เงินที่ได้รับบริจาคมาอย่างไม่โปร่งใส ทำให้คนอื่นเข้าใจผิด จึงขอให้ดำเนินคดี ข้อหาหมิ่นประมาท ด้วยการโฆษณา โดยนำข้อความที่มีการโพสต์จำนวน 24 แอคเคานท์ มาเป็นหลักฐาน
น.ส.ชลลดา กล่าวว่า แจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่ไม่หวังดี ต้องการให้เป็นกรณีตัวอย่าง และยืนยันความบริสุทธิ์ว่ามูลนิธิเดอะวอยซ์ ดำเนินงานมา 5 ปี มีการช่วยเหลือสัตว์จริงและมีการแจกแจงการใช้เงินบริจาคอย่างโปร่งใสเสมอมา ก่อนหน้านี้มีการโพสต์ถึงมูลนิธิเดอะวอยซ์ ให้เสื่อมเสียมาหลายครั้ง แต่ที่นิ่งเฉยเพราะฝั่งผู้โพสต์ไม่ได้มีการเอ่ยชื่อมูลนิธิเดอะวอยซ์ โดยตรง ใช้การเลี่ยงคำ แต่ในครั้งนี้มีการโพสต์ชื่อมูลนิธิเดอะวอยซ์ พร้อมทั้งระบุว่าตนเป็นประธาน สร้างความเสื่อมเสียให้กับมูลนิธิและบั่นทอนขวัญกำลังใจผู้มีจิตอาสาที่เข้ามาช่วยงาน รวมถึงพาดพิงไปยังเพื่อนดาราที่มีชื่อเสียงที่ร่วมกันบริจาคเงินช่วยเหลือสัตว์
น.ส.ชลลดา กล่าวต่อว่า อย่างกรณีที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม มูลนิธิเดอะวอยซ์ ได้รับการประสานจากมูลนิธิอื่นให้ช่วยเหลือสุนัขที่ติดอยู่ในท่อระบายน้ำย่านท่าเรือคลองเตย ต้องเจาะพื้นคอนกรีต มีค่าใช้จ่ายประมาณ 2 หมื่นบาท จึงขอระดมเงินบริจาคจำนวน 2 หมื่นบาท มีเจ้าหน้าที่และช่างรับเหมาไปเจาะคอนกรีตเพื่อช่วยสุนัขตัวดังกล่าว เมื่อช่วยสำเร็จจึงจ่ายเงินเป็นค่าจ้างผู้รับเหมา 19,000 บาท หลังจากนั้นผู้ไม่หวังดีโพสต์ข้อความทำนองว่า เงินค่าจ้างผู้รับเหมา 19,000 บาท แต่ตนกลับขอระดมทุนเป็นเงิน 20,000 บาท จึงมีการถามถึงส่วนต่างอีก 1,000 บาทว่าหายไปไหน ทั้งนี้ ขอชี้แจงว่าเงิน 1,000 บาทนั้น ผู้บริจาคอนุญาตให้นำเงินไปสมทบช่วยเหลือสัตว์ในกรณีอื่นๆ ต่อไป
น.ส.ชลลดา กล่าวต่อว่า ก่อนจะมาแจ้งความที่ ปอท.ตนได้ลงบันทึกประจำวันที่ สน.ทองหล่อ เมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ยืนยันว่าจะดำเนินการให้ถึงที่สุด เพื่อสร้างความมั่นใจและเชื่อมั่นให้กับผู้มีจิตอาสาและผู้ทำความดีทุกคน เนื่องจากมูลนิธิเดอะวอยซ์ มีพันธมิตรในต่างประเทศด้วย
เบื้องต้นตำรวจรับเรื่องไว้ก่อนรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำผู้เสียหาย เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดและรายงานผู้บังคับบัญชา
