‘พล.ต.อ.วินัย’ อดีต หน.ชุด ยัน ‘สมคิด พุ่มพวง’ ไม่บ้าแต่เป็นจิตเภท รักษาไม่หาย อย่าปล่อยลอยนวลข้างนอก

อดีตหัวหน้าชุดคลี่คลายคดี เผยสมคิดเป็นจิตเภท รักษาไม่หาย ไม่ควรถูกปล่อยออกมาในสังคมอีก

เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 18 ธันวาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรอง ผบ.ตร. เปิดใจในฐานะอดีตหัวหน้าชุดคลี่คลายคดีนายสมคิด พุ่มพวง หรือคิด เดอะริปเปอร์ ว่า เมื่อปี 2548 ในขณะที่ดำรงตำแหน่ง ผบก.ป. ได้มี พ.ต.อ.ปรีชา เจริญทรัพย์ ยศในขณะนั้น ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้โทรศัพท์มารายงานว่ามีเหตุฆาตกรรมในพื้นที่ว่ามีเหตุคล้ายๆ กันในพื้นที่ภาคอีสานอีก 1-2 ราย อยากให้กองปราบเข้าไปช่วยคลี่คลายคดี การสืบสวนจับกุมใช้หลักการพื้นฐานกล้องวงจรปิด การติดต่อสื่อสาร และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยขณะนั้นสืบทราบว่านายสมคิดมีภรรยาอยู่ที่ จ.ชัยภูมิ จึงตามไปจับกุมตัวไว้ได้ที่บ้านภรรยา

“สมคิดเป็นคนฉลาดและมีความรู้ พฤติกรรมเดิมเคยให้การเป็นพยานเท็จในคดีผู้พันตึ๋ง สมคิดโทรศัพท์ไปบอกช่องข่าวว่าทราบตัวคนร้าย เป็นลักษณะสร้างความสำคัญ จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่กองปราบจับกุมในข้อหาให้การเท็จ ในขณะที่ติดคุกอยู่ก็ยังไปเขียนจดหมายส่งไปถึงภรรยาของญาติผู้ที่ถูกยิงตายในบ่อบำบัดน้ำเสียราชาเทวะ เพราะฉะนั้นสมคิดจะมีความคิดที่ต่างจากบุคคลธรรมดา แต่สมคิดไม่ได้บ้าหรือวิกลจริต แต่เขาเป็นโรคจิตเภท ถ้าได้ไปกระทำต่อเหยื่อมันทำให้เกิดความสุข ซึ่งเป็นจิตเภทอย่างหนึ่งที่เรียกว่าฆาตกรรมต่อเนื่อง” พล.ต.อ.วินัยกล่าว

พล.ต.อ.วินัยกล่าวอีกว่า การก่อเหตุของนายสมคิดไม่ได้ถึงกับมีการวางแผนซับซ้อนแต่อย่างใด แต่พบว่ามีอาการเป็นโรคจิตเภท ไม่ได้มีอาการวิกลจริต จึงสามารถดำเนินคดีได้ เพราะทุกครั้งที่ก่อเหตุมีสติเหมือนคนปกติโดย ล่าสุดเมื่อนายสมคิดถูกจับกุมแล้ว ก็ไม่ควรถูกปล่อยให้ออกมาอยู่ในสังคมภายนอก เพื่อป้องกันไม่ให้กลับมาก่อเหตุกับคนอื่นอีก เพราะเท่าที่เคยสอบถามกับผู้เชี่ยวชาญทราบว่า โรคจิตเภทที่นายสมคิดป่วยนั้นไม่สามารถรักษาได้ เพราะตอนที่ถูกจับกุมเมื่อปี 2548 เขาเคยพูดจับชุดจับกุมว่ามีความสุขทุกครั้งที่ได้บีบคอเหยื่อ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image