‘แพรวา’สาวซีวิค รับเข้าใจผิดขั้นตอนคุมประพฤติ ยอมเริ่มต้นใหม่138ชม. (คลิป)

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 21 มิถุนายน ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ถนนกำแพงเพชร 2 ศาลนัดไต่สวนคำร้องที่เจ้าพนักงานคุมประพฤติ ขอให้ศาลพิจารณา กรณี น.ส.แพรวา (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี จำเลยในคดีขับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค เฉี่ยวชนรถตู้โดยสารสายธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต-หมอชิต บนทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ เป็นเหตุให้คนขับรถตู้และผู้โดยสารเสียชีวิตรวม 9 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2553 ผิดเงื่อนไขการคุมประพฤติ ในการบำเพ็ญประโยชน์

โดยวันนี้ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ และเจ้าพนักงานคุมประพฤติ และเยาวชนหญิง เดินทางมาศาลเพื่อไต่สวน เป็นการพิจารณาลับ ไม่อนุญาตให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในห้องพิจารณาคดี ทั้งนี้ในช่วงเช้าที่ผ่านมาศาลได้ไต่สวนพนักงานคุมประพฤติแล้วเสร็จจำนวน 1 ปาก ก่อนพักการพิจารณาคดีเมื่อเวลา 13.30 น. และไต่สวนพนักงานคุมประพฤติอีก 3 ปาก ในเวลา 14.00 น.

ทั้งนี้ หลังจากผู้ถูกคุมประพฤติได้ฟังคำเบิกความของเจ้าพนักงานคุมประพฤติเกี่ยวกับกฎระเบียบแล้ว จึงแถลงต่อศาลว่าที่ผ่านมาไม่ได้กระทำตามกฎระเบียบ จึงจะขอทำกิจกรรมบริการสังคมใหม่ให้ครบถ้วน ศาลจึงนัดพร้อมเพื่อฟังผลการทำกิจกรรมของผู้ถูกคุมประพฤติ ในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ เวลา 09.00 น.

Advertisement

ต่อมาเวลา 15.30 น. เมื่อเสร็จสิ้นการพิจารณา พ.ต.อ.ณรัชต์ เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายฝ่ายผู้ร้องไม่ได้นำพยานอีก 3 ปากเข้าไต่สวน เนื่องจากฝ่ายเยาวชน ผู้ถูกคุมประพฤติได้แสดงสปิริตต่อศาลเอง ยอมรับว่าเข้าใจผิดพลาดต่อกระบวนการและสถานที่ในการบำเพ็ญประโยชน์ เมื่อตรวจสอบกิจกรรมบริการสังคมตามที่ศาลกำหนดให้ผู้ถูกคุมประพฤติต้องทำงานช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุทางบก 3 ปี โดยให้บำเพ็ญประโยชน์เป็นเวลา 48 ชั่วโมงต่อปี รวมเป็นเวลา 144 ชั่วโมง ผู้ถูกคุมประพฤติได้ทำการบริจาคโลหิตเป็นเวลา 6 ชั่วโมงตรงตามเกณฑ์แล้ว แต่ส่วนที่เหลืออีก 138 ชั่วโมง ผู้ถูกคุมประพฤติระบุว่าได้บำเพ็ญประโยชน์ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าอีก 90 ชั่วโมง โดยเหลือเวลาบำเพ็ญประโยชน์อีก 48 ชั่วโมงนั้น ปรากฏว่าขณะที่บำเพ็ญประโยชน์นั้นโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ยังไม่ใช่ภาคีกับกรมคุมประพฤติ ผู้ถูกคุมประพฤติยอมรับว่าเข้าใจผิดพลาดไปในกระบวนการดังกล่าว และยอมที่จะทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ใหม่รวมกับเวลาที่เหลือทั้งสิ้น 138 ชั่วโมง

พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวต่อว่า ได้มีการเจรจาและทำบันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับสถานที่ไว้แล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ขณะที่ในเดือนสิงหาคมจะครบกำหนดการคุมประพฤติและทำกิจกรรมบริการสังคม ศาลมีคำสั่งนัดพร้อมคู่ความเพื่อฟังผลดำเนินการตามเงื่อนไขของการคุมประพฤติดัในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ หากผู้ถูกคุมประพฤติได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างครบถ้วน ในวันดังกล่าวศาลอาจจะมีคำสั่งว่าผู้ถูกคุมประพฤติพ้นจากการคุมประพฤติแล้ว ส่วนที่ศาลเคยมีคำพิพากษาห้ามผู้ถูกคุมประพฤติขับรถจนกว่าจะมีอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์นั้นก็ยังต้องปฏิบัติต่อไป

พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่ผู้ถูกคุมประพฤติเคยร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานคุมประพฤตินั้น ไม่ได้มีปัญหาอะไรแล้ว เมื่อขณะนี้ผู้ถูกคุมประพฤติยอมรับว่าเข้าใจผิดพลาดในกระบวนการทำกิจกรรมบริการสังคมระหว่างคุมประพฤติ

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2555 ว่า จำเลยมีความผิดฐานขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทำให้ทรัพย์สินเสียหาย คำให้การในชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกเป็นเวลา 2 ปี โทษจำคุกให้รอลงอาญาเป็นเวลา 3 ปี โดยคุมประพฤติจำเลย 3 ปี และให้รายงานตัวทุกๆ 3 เดือน พร้อมให้ทำงานบริการสังคมโดยการดูแลผู้ป่วยจากอุบัติเหตุเป็นเวลา 48 ชั่วโมง รวมทั้งห้ามจำเลยขับรถยนต์จนกว่าจะมีอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์ ส่วนความผิดฐานใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ศาลพิพากษายกฟ้องเนื่องจากไม่สามารถนำสืบได้ว่าจำเลยใช้โทรศัพท์จริงหรือไม่

ขณะที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2557 แก้เป็น จากที่รอลงอาญา 3 ปี ให้ระยะเวลารอลงอาญาเป็น 4 ปี และให้บำเพ็ญประโยชน์ 48 ชั่วโมงต่อปี เป็นเวลารวม 4 ปี ส่วนโทษอื่นให้คงตามศาลชั้นต้น ทั้งนี้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ถือเป็นที่สุด เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งปี 2558 ไม่รับฎีกาของจำเลย เนื่องจากไม่มีสาระสำคัญจะเปลี่ยนแปลง คำพิพากษาเดิม

ด้านคดีแพ่งที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวยื่นฟ้องบิดามารดาของเยาวชน และตัวเยาวชนต่อศาลแพ่ง เรียกค่าเสียหาย 113 ล้านบาทเศษ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนั้น ศาลแพ่งมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 26พฤศจิกายน 2558 ให้จำเลยทั้งสามชดใช้เงินกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นเงินรวม 26,881,925 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2553 เป็นวันที่เกิดเหตุรถพลิกคว่ำ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image