เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 29 มกราคม พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รอง ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และ พ.ต.อ.สุภากร คำสิงห์นอก รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.นพดล เพ็ชรสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.ท.ภฤศ ภาสว่าง สวป.สภ.เมืองขอนแก่น ได้ไปเยี่ยม น.ส.จริยากุล อาจคำ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 3 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ที่ รพ.ขอนแก่น ที่ได้รับบาดเจ็บทางสมอง ใบหน้า และตามร่างกายมีแผลถลอก โดยถูกคนร้ายขี่รถ จยย.ตามหลังมาใช้เท้าถีบรถ จยย.จนล้ม และทำร้าย น.ส.จริยากุล พร้อมกับชิงกระเป๋าสะพายที่ไหล่ของคนเจ็บไป ซึ่งในกระเป๋ามีเงินสด 1,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 50 สตางค์ 1 เส้น และโทรศัพท์ไอโฟน 5 จำนวน 1 เครื่อง
โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 02.30 น. ของวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา บริเวณถนนศรีจันทร์ฝั่งขาออก ด้านหน้าธนาคารกรุงไทย ตรงข้ามหมู่บ้านศุภาลัย ถ.ศรีจันทร์ คนร้ายเป็นชายขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดง กระชากกระเป๋า น.ส.จริยากุล ซึ่งขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ฟีโน่ สีขาว ทะเบียน งคจ 252 ขอนแก่น ทำให้รถล้มทั้งคู่ น.ส.จริยากุล ได้รับบาดเจ็บก่อนที่คนร้ายจะชิงกระเป๋าแล้วขับรถหลบหนีไป
พล.ต.ต.จตุพล รอง ผบช.ภ.4 กล่าวว่า กรณีคนร้ายขับรถ จยย.ตามหลังผู้เสียหายพร้อมกับถีบรถ จยย.ผู้เสียหายล้มลง ทำร้ายร่างกายและกระชากกระเป๋าหลบหนี ก่อนที่จะเกิดกับ น.ส.จริยากุล อาจคำ เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.วันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา คนร้ายคาดว่าเป็นรายเดียวกันได้ก่อเหตุขับขี่รถ จยย.ติดตาม น.ส.ดวงพร เหลาพรรณนา (แอน) อายุ 27 ปี ผู้ช่วยผู้จัดการโฆษะสนุกเกอร์คลับ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น เมื่อมาถึงบริเวณหน้าสถานกงสุลเวียตนาม ถ.พิมพสุต อ.เมือง จ.ขอนแก่น ใช้เท้าถีบรถ จยย.ของ น.ส.ดวงพรล้มลงแล้วจอดรถลงมากระชากกระเป๋าสะพายที่ข้างในมีเงินสดประมาณ 4,000 บาท พร้อมโทรศัพท์มือถือและเอกสารประจำตัวหลายรายการหลบหนีไปอย่างลอยนวลโดยไม่แคร์สายตาชาวบ้านทั้งๆที่ ที่เกิดเหตุเป็นเขตชุมชนและเป็นช่วงหัวค่ำมีประชาชนพลุกพล่าน
พล.ต.ต.จตุพล รอง ผบช.ภ.4 กล่าวอีกว่า ขณะนี้คนร้ายรายนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่นได้เบาะแสมาพอสมควร และกำลังติดตามหาตัวอยู่ เชื่อว่ายังหลบซ่อนอยู่ในเมืองขอนแก่น อย่างไรก็ตาม ขอฝากเตือนสุภาพสตรีที่ขับขี่รถ จยย. ในยามค่ำคืนและชอบสะพายกระเป๋าวางกระเป๋าไว้หน้าตะแกรงรถหรือห้อยกระเป๋าไว้กับที่ห้อยหน้ารถให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวเพื่อความปลอดภัยของตนเอง หรือถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะคนร้ายรายนี้น่าเชื่อว่าจะใช้วิธีถีบรถ จยย.กระชากกระเป๋าผู้เสียหายในยามค่ำคืน ไม่น้อยกว่า 3 -4 คน ซึ่งแก๊งพวกนี้จะออกมาอาละวาดหากินเป็นพักๆพอเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมากวาดล้างจับกุมแก๊งพวกนี้ก็จะหยุดออกหากิน แต่พอเจ้าหน้าที่ตำรวจเลิกเข้มงวดแก๊งพวกนี้ก็จะออกมาหากินอีก สมัยก่อนยังเลือกลงมือตอนดึกและในที่มืดที่เปลี่ยว แต่ยุคนี้พวกมันยิ่งเหิมเกริมลงมือปฏิบัติการโดยไม่เลือกเวลาและสถานที่ ตำรวจภูธรภาค 4 ได้ตั้งชุดเฉพาะกิจสืบสวนสอบสวนคดีนี้โดยเฉพาะให้ บก.สส.ภ.4 ,ภ.จว.ขอนแก่น และ สภ.เมืองขอนแก่น ออกติดตามหาตัวคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายให้เร็วที่สุด.
