กรณีคนร้ายบุกใช้อาวุธปืนยิงประตูกระจกร้านทองเยาวราชเอเชีย สาขาเจซี หน้าห้างเทสโก้โลตัส สาขาวังหิน แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ชิงสร้อยคอทองคำ และแหวนทองต่าง ๆ น้ำหนักกว่า 120 บาท ก่อนขับรถจยย. หลบหนีไปตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พร้อม พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์,พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4,พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. และ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิลาลัย ผกก.2 บก.สส.บช.น.ร่วมกับ พ.ต.อ.พรทวี สมวงค์ ผกก.สน.โชคชัย,พ.ต.ท.ไพจิตร คํายอด รองผกก.สส.สน.โชคชัย แถลงผลการจับกุมนายนิพัฒน์ ใจชอบสันเทียะ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ร้านห้างทองเยาวราช เอเชีย หน้าห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาวังหิน ตามหมายจับที่ 1920/2562 ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2562 พร้อมของกลางสร้อยคอทองคํา 44 เส้น สร้อยข้อมือทองคํา 9 เส้น กําไลข้อมือทองคํา 1 ชิ้น กําไลข้อเท้าทองคํา 3 ชิ้น แหนบทองคํา 2 ชิ้น น้ำหนักรวมทั้งหมดประมาณ 80 บาท และอาวุธปืน ขนาด .45 มม.
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า จากเหตุนี้คนร้ายได้ไปชิงทองคำต่าง ๆ ได้ทองคำน้ำหนักรวม 101 บาท ราคาประมาณ 2 ล้านบาท และวิ่งออกประตูร้านไปขึ้นรถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีขาวแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่จอดอยู่บริเวณด้านหลังร้าน และขับหลบหนีมุ่งหน้าแยกวังหิน เมื่อถึงแยกวังหินเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าถนนประเสริฐมนูกิจหลบหนีไป แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบตามเส้นทางการก่อเหตุของคนร้ายพบว่าคนร้ายได้ขับรถ จยย. ออกมาจากหอพักภายในซอยพหลโยธิน 53 แยก 11 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ ตรวจสอบพบว่าคนร้ายพักอาศัยอยู่ห้องพักเลขที่ 313 ของหอพักดังกล่าว โดยมีผู้หญิงเป็นผู้เช่าห้องพัก และมีนายนิพัฒน์ เป็นผู้พักอาศัยร่วม จึงขออนุมัติหมายจับต่อศาล ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่านายนิพัฒน์ หลบหนีไปอยู่ที่บริเวณ อ.แม่สอด จ.ตาก จึงได้ดำเนินการติดตามจับกุมตัว จนสามารถจับกุมนายนิพัฒน์ ได้ที่บริเวณริม ถ.บ้านท่าอาด ม.4 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก พร้อมด้วยสร้อยคอของกลางที่ได้จากการก่อเหตุชิงทรัพย์จำนวน 2 เส้น
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวต่อว่า จากการซักถามนายนิพัฒน์ ยอมรับว่าเป็นคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุชิงทองคำจริง ก่อนหน้านี้เคยเป็นอดีตลูกจ้างหน่วยงานรัฐ ก่อนที่จะออกจากงานและทำงานไม่เป็นหลักแหล่ง เจ้าหน้าที่จึงพาไปค้นของกลางที่บริเวณริม ถ.สาย กพ.3011 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.กำแพงเพชร จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพเนื่องจากผู้ต้องหาเป็นหนี้การพนันบอลออนไลน์ และเป็นหนี้พนันกว่า 200,000 บาท สำหรับปืนที่ก่อเหตุซื้อมาในราคา 160,000 บาท เป็นปืนมีทะเบียนถูกต้อง สาเหตุที่เลือกก่อเหตุร้านนี้นั้นเพราะเห็นว่ามีเส้นทางหลบหนีสะดวก แต่ไม่ทราบว่าร้านดังกล่าวเพิ่งเคยถูกชิงทรัพย์มาก่อน
ต่อมาเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.ธีระพงษ์ พร้อมด้วยพล.ต.ต.ไพศาล นำตัวนายนิพัฒน์ ไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และจะนำตัวส่งศาลในวันพรุ่งนี้ต่อไป
ด้าน น.ส.พัชรพร ขำน้อย วัย 29 ปี พนักงานที่อยู่ในเหตุการณ์รับว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ในรอบปีที่ถูกคนร้ายบุกชิงทอง แต่ครั้งนี้ถือว่ารุนแรงกว่าเนื่องจากมีอาวุธปืนและมีการยิง ส่วนตัวกลัวมาก และที่คิดว่าระวังตัวดีอยู่แล้วคงต้องคอยสอดส่องระวังกันมากกว่าเดิม
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา”ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทําอันตรายสิ่งกีดกั้นสําหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยมอมหน้าหรือทําด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจําหน้าได้ใช้อาวุธปืน ใช้ยานพาหนะเพื่อกระทําความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารระโดยไม่ได้รับอนุญาต ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิด โดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือชุมชนและทําให้เสียทรัพย์”
