เมื่อเวลา18.30น.วันที่22มิถุนายน ที่สน.ทองหล่อ นายชุมพล ชูประดิษฐ์ อายุ41ปี คนขี่รถจักรยานยนต์ชนนายสุวีระ บุญรอด หรือคิว วงฟลัวร์ อายุ35ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เลือดคั่งในสมอง เมื่อช่วงเช้าวันที่21มิถุนายนที่ผ่านมา เดินทางเข้าพบพ.ต.อ.ขจรพงศ์ จิตต์ภาคภูมิ ผกก.สน.ทองหล่อ และ ร.ต.อ.อาทิตย์ เกตุทอง รอง สว.(สอบสวน) สน.ทองหล่อ ตามหมายเรียกเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา
นายชุมพล กล่าวว่า เมื่อเวลา 06.15 น.วันที่21มิถุนายน ขี่รถจักรยานยนต์ไปทำงานที่ซอยทองหล่อ36 ขี่มาความเร็ว80กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนหน้านั้นฝนตกหนักทำให้ถนนลื่น จึงขับด้วยความระมัดระวังตลอดทาง จุดเกิดเหตุเป็นจังหวะที่ผู้เสียหายทั้ง2คนกำลังเดินข้ามถนนไปอีกฝั่ง ขณะนั้นทั้ง2คนอยู่กลางถนนพอดี ตนเกรงว่าจะเบรกไม่ทันจึงตัดสินใจทิ้งตัวลงเพื่อให้รถล้มจะได้ผ่อนแรงการปะทะ คาดว่ารถจะไม่ไปชนผู้เสียหายทั้ง2คน แต่เนื่องจากถนนลื่นทำให้รถไถลไปชนคู่กรณี และพบว่านายนายสุวีระหมดสติ ตนได้กลิ่นแอลกอฮอล์ จึงคิดว่าคู่กรณีเมาแล้วหมดสติ จึงอุ้มนายสุวีระไปไว้ริมฟุตบาธ ก่อนจะให้เบอร์โทรศัพท์ไว้กับเพื่อนของนายสุวีระที่ยังมีสติอยู่ ย้ำว่าหากมีอะไรให้ติดต่อมา จากนั้นจึงรีบขี่รถปทำงาน เนื่องจากมีอาชีพเป็นพนักงานขับรถบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ขณะเกิดเหตุต้องรีบไปรับเจ้านาย ก่อนหน้านี้ไปทำงานสาย2ครั้งแล้ว หากไปสายอีกจะมีผลกับการทำงาน
นายชุมพล กล่าวต่อว่า เมื่อไปถึงบริษัทตนรับเจ้านายไปส่งที่ จ.ชลบุรี แล้วรอโทรศัพท์ตลอดทั้งวัน แต่ไม่มีใครติดต่อกลับมา กระทั่งเมื่อเช้านี้มีโทรศัพติดต่อมา แต่ตนล้างรถอยู่จึงไม่ได้รับ เมื่อโทรกลับพบว่าปลายสายเป็นผู้หญิง ระบุว่านายสุวีระได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องผ่าตัดสมองและได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อแล้ว ต่อมาได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ ว่ามีหมายเรียกให้มาให้ปากคำ จึงตัดสินใจเข้าพบตำรวจ
“เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ผมไม่ได้ตั้งใจ ขณะเกิดเหตุพยายามทำให้รถตัวเองล้ม แต่รถยังไถลไป ยืนยันว่าไม่มีเจตนาหลบหนีและขอโทษไม่คิดว่าคู่กรณีจะได้รับบาดเจ็บมากขนาดนี้ เพราะตอนนั้นผมไม่เห็นเลือดหรือบาดแผลอะไรภายนอกเลย ประกอบกับต้องไปรีบทำงานด้วย ถ้ามีโอกาสอยากจะไปเยี่ยมนายสุวีระด้วย เพราะไม่ทราบว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง” นายชุมพลกล่าว
ขณะที่พ.ต.อ.ขจรพงศ์ กล่าวว่า เบื้องต้นแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส ไม่แสดงตัวรอพบพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ที่เกิดเหตุ ขับรถโดยขณะใบอนุญาตขับขี่สิ้นอายุ และขับรถโดยไม่ได้ชำระภาษีประจำปี อย่างไรก็ตามจะสอบปากคำโดยละเอียด ก่อนจะปล่อยตัวนายชุมพล เนื่องจากเป็นการเข้าพบตามหมายเรียกไม่ได้เป็นการจับกุม จึงไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ประกันตัว
