ศาลแพ่งพระโขนงจับมือเซ็น เอ็มโอยู SAM แก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือน จัดเดือนเเห่งประนีประนอม

นายอดุลย์ ขันทอง อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งพระโขนง

ศาลแพ่งพระโขนงจับมือเซ็น เอ็มโอยู SAM แก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือน จัดเดือนเเห่งประนีประนอมเข้ากระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้คู่ความตกลงกันเผยมีคดีเข้ามากว่า 5,000 คดี ตกลงกันได้เกือบ 100% สนับสนุนนโยบาย ปธ.ศาลฎีกา ยุติธรรมทางเลือกเปิด nightcourt (ไนท์คอร์ท) พิจารณาคดีนอกเวลาราชการ

เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม นายอดุลย์ ขันทอง อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งพระโขนง เปิดเผยว่า ศาลแพ่งพระโขนงเป็นศาลแห่งใหม่ ใช้อาคารศาลจังหวัดพระโขนง ถนนสรรพวุธ บางนา เปิดทำการวันที่ 1 สิงหาคม 2562 มีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งในเขตพระโขนง เขตบางนา เขตประเวศ และเขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร คดีพิพาทส่วนใหญ่เป็นคดีผู้บริโภค คดีแพ่งสามัญทั่วไป รวมถึงละเมิดที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เพราะใกล้เขตอุสาหกรรมสมุทรปราการ ที่น่าสนใจคือพบว่าคนไทยมีหนี้ภาคครัวเรือนมากคือ หนี้ที่เกิดจากการใช้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล เช่าทรัพย์และเช่าซื้อ ที่สถาบันการเงินฟ้องเรียกเอาดอกเบี้ยตั้งแต่ร้อยละ 18 ถึง 28 ต่อปี คดีเหล่านี้ทำให้เกิดความทุกข์แก่จำเลยและบุคคลในครอบครัว ส่งผลกระทบต่อการทำงาน และยังส่งผลต่อการชำระหนี้ในระบบการเงินของสถาบันการเงิน ทำให้ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม

อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งพระโขนงกล่าวว่า ถ้าพิจารณาพิพากษาคดีเหล่านี้ไปตามปกติน่าจะมิได้เป็นการช่วยแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนและมิได้เป็นการช่วยเหลือประชาชนผู้มีอรรถคดีทั้งโจทก์ซึ่งเป็นสถาบันการเงินและประชาชนที่ถูกฟ้องคดีให้มีทางออกที่ดีในการแก้ไขปัญหาของสถาบันการเงินและแก่จำเลยกับครอบครัว ศาลแพ่งพระโขนงเห็นว่าบันทึกข้อตกลงของธนาคารแห่งประเทศไทยกับธนาคารและสถาบันการเงิน 35 แห่ง ที่มอบให้คลินิกแก้หนี้ของบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด หรือ SAM (แซม) ซึ่งเป็นรัฐวิสากิจเข้ามาช่วยเหลือประชาชนในการแกัไขปัญหาหนี้สินครัวเรือน เป็นประโยชน์แก่โจทก์ในการที่จะได้รับชำระหนี้และเป็นประโยชน์แก่จำเลยในการที่จะผ่อนชำระหนี้แก่โจทก์ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำร้อยละ 4 ถึง 7 ต่อปี และมีระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้ นานถึง 10 ปี ทำให้ลูกหนี้สามารถชำระหนี้ได้อย่างแท้จริง และโจทก์ไม่ต้องเสียเวลาในการที่จะไปบังคับคดีติดตามยึดทรัพย์สินของลูกหนี้มาชำระหนี้ ทั้งยังได้รับชำระหนี้ตามจำนวนที่ตกลงกัน ศาลแพ่งพระโขนงและบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด จึงได้ทำบันทึกข้อตกลงในการที่จะนำคดีเหล่านั้นเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของศาลแพ่งพระโขนง เพื่อให้คู่ความสามารถตกลงกันได้

โดยศาลแพ่งพระโขนงได้จัดโครงการ “เดือนแห่งการประนีประนอมข้อพิพาท” ขึ้นระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 27 ธันวาคม 2562 (กำลังขยายถึงสิ้น ม.ค.63) เพื่อเปิดโอกาสให้คู่ความได้มีการเจรจาตกลงทำสัญญาประนีประนอมข้อพิพาทกัน อันเป็นการสร้างความสมานฉันท์และปรองดองขึ้นในสังคม ทั้งนี้ บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด ได้จัดเจ้าหน้าที่ของคลินิกแก้หนี้มาอำนวยความสะดวกให้แก่คู่ความที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของศาลแพ่งพระโขนงในระหว่างที่จัดโครงการ และในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทดังกล่าวมีผู้พิพากษา ผู้ประนีประนอมประจำศาล โจทก์ จำเลยและเจ้าหน้าที่ของแซม เข้ามาพูดคุยหาทางออกร่วมกัน ส่วนใหญ่ลูกหนี้มีเจตนาจะชำระหนี้ แต่ขาดสภาพคล่องบ้าง ตกงานบ้าง ในที่สุดเมื่อพูดคุยกันก็หาทางออกร่วมกันได้ มีทั้งการลดต้นเงินและลดดอกเบี้ยให้แก่จำเลย ที่ผ่านมาสามารถตกลงกันโดยมีการผ่อนชำระเหลือเพียงเดือนละ 1,000 บาทเศษ หรือมากกว่านี้ในจำนวนที่ลูกหนี้สามารถผ่อนชำระได้

Advertisement

ซึ่งในโครงการเดือนแห่งการประนีประนอมข้อพิพาทดังกล่าวมีการนัดคดีเข้ามากว่า 5,000 คดี โดยคดีที่คู่ความมาศาลสามารถตกลงกันได้เกือบ 100% ทำให้คดีเสร็จไปเป็นจำนวนมาก อันเป็นการคืนความสุขให้แก่ประชาชนผู้มีอรรถคดีและเป็นการสนับสนุนบทบาทของศาลในการใช้กระบวนการยุติธรรมทางเลือกบนพื้นฐานความสมัครใจของคู่ความ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา ทำให้ศาลแพ่งพระโขนงสามารถนัดคดีพิจารณาคดีผู้บริโภคนัดแรกได้ภายใน 30 วัน นัดพิจารณาคดีแพ่งสามัญทั่วไปได้ภายใน 45 วัน โดยไม่ต้องมีการขยายระยะเวลาออกไป และสามารถนัดพิจารณาคดีต่อเนื่องได้ภายในสามเดือน

นายอดุลย์กล่าวว่า การที่ศาลแพ่งพระโขนงสามารถพิจารณาพิพากษาคดีได้อย่างรวดเร็วก็เนื่องมาจากศาลได้นำกระบวนการในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทมาใช้ควบคู่ไปกับการพิจารณาพิพากษาของศาลอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีผู้ประนีประนอมประจำศาลช่วยเหลือศาลในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท นอกจากนี้ศาลแพ่งพระโขนง ยังได้เปิดทำการพิจารณาคดีนอกเวลาราชการหรือ”nightcourt”(ไนท์คอร์ท ) ในวันจันทร์ถึงวันศุกร์ตั้งแต่เวลา 16.30 น. ถึงเวลา 20.30 น. และในวันเสาร์ตั้งแต่เวลา 8.30 น. ถึงเวลา 16.30 น. ตามวันที่คู่ความสะดวกที่จะมาศาล โดยเปิดทำการพิจารณาพิพากษาคดีจัดการพิเศษ คดีไม่มีข้อยุ่งยาก หรือคดีที่คู่ความมีความรีบด่วนต้องการให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาเพื่อไปบริหารจัดการต่างๆในชีวิตเช่น คดีร้องขอจัดการมรดกของผู้ตาย โดยมีองค์คณะพิจารณาคดีประมาณวันละ 5 คณะ ทำการพิจารณาพิพากษาคดีนอกเวลาราชการ คดีดังกล่าวศาลจะมีคำสั่งหรือคำพิพากษาในวันนั้นเลย ทำให้คู่ความมีทางเลือกเพิ่มมากขึ้นในการที่จะมาศาลในเวลาราชการหรือนอกเวลาราชการก็ได้

สำหรับในปี 2563 ศาลแพ่งพระโขนงตั้งเป้าหมายที่จะนำนโยบายประธานศาลฎีกา ข้อ 1.3 ว่าด้วย การเพิ่มบทบาทเชิงรุกในการให้ข้อมูลแก่ประชาชนเกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินคดีในศาลและให้ประชาชนได้รับรู้ถึงสิทธิของตนตามกฏหมาย และข้อ 5.3 ว่าด้วย การสนับสนุนบทบาทของศาลในการใช้กระบวนการยุติธรรมทางเลือกบนพื้นฐานความสมัครใจของคู่ความ มาช่วยลดปริมาณคดีที่จะมีการฟ้องคดีต่อศาลให้ลดลง โดยนำกระบวนการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562 มาใช้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งพระราชบัญญัติดังกล่าวในส่วนที่เกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องมีผลใช้บังคับมาตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 ทำให้ประชาชนที่มีข้อพิพาทหรือมีปัญหาข้อขัดแย้งกัน ทั้งในทางแพ่งและทางอาญาตามที่กฎหมายกำหนดไว้ สามารถยื่นคำร้องขอให้ศาลไกล่เกลี่ยข้อพิพาทได้โดยไม่ต้องมีการฟ้องร้องดำเนินคดี ไม่ต้องจ้างทนายความ ไม่ต้องเสียค่าขึ้นศาลและไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น อันเป็นการประหยัดเวลาและลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในการดำเนินคดีในศาลได้เป็นอย่างดี

Advertisement

ซึ่งข้อพิพาทที่สามารถยื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องในทางแพ่งได้เป็นไปตามมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562 ดังต่อไปนี้ (1) ข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินที่มิใช่ข้อพิพาทเกี่ยวด้วยกรรมสิทธิ์ (2) ข้อพิพาทระหว่างทายาทเกี่ยวกับทรัพย์มรดก (3) ข้อพิพาทอื่นตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา และ (4) ข้อพิพาทอื่นนอกจาก (1) (2) และ(3) ที่มีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าล้านบาทหรือไม่เกินจำนวนตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา ซึ่งจะเห็นได้ว่าคดีส่วนใหญ่ที่ประชาชนมีข้อพิพาทกันสามารถเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องได้ ดังนั้น เมื่อประชาชนมีปัญหาหรือข้อพิพาทดังกล่าวก็สามารถยื่นคำร้องขอต่อศาลให้มีการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องได้ โดยไม่ต้องยื่นฟ้องคดีต่อศาลซึ่งจะสามารถลดปริมาณคดีที่ต้องเข้าสู่การพิจารณาพิพากษาของศาลได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยในการไกล่เกลี่ยดังกล่าวจะมีผู้ไกล่เกลี่ยของศาลทำหน้าที่เป็นคนกลางช่วยเหลือให้ประชาชนที่เป็นคู่กรณี สามารถตกลงกันได้ หากตกลงกันได้ก็จะมีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความ อันก่อให้เกิดความสมานฉันท์ปรองดองขึ้นในสังคมอย่างแท้จริง และหากคู่กรณีไม่ปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าว คู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งสามารถยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งบังคับ ตามข้อตกลงแก่คู่กรณีที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญาได้ทันที

“ผมเชื่อมั่นว่ากระบวนการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องของศาลจะสามารถลดปริมาณคดีที่มีการฟ้องร้องคดีต่อศาลโดยตรง อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายและประหยัดเวลาให้แก่ประชาชนเหล่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบวนการดังกล่าวยังเป็นกระบวนการที่ให้ประชาชนที่มีข้อพิพาทนั้นหันหน้ามาพูดคุยเจรจาตกลงกัน จนได้รับความพึงพอใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งศาลแพ่งพระโขนงได้วางระบบงานของศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งมีคดีที่ประชาชนมายื่นคำร้องขอให้มีการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องแล้ว และพร้อมที่จะดำเนินการได้อย่างเต็มที่ตั้งแต่วันเปิดทำการในเดือนมกราคม 2563 เป็นต้นไป โดยประชาชนที่มีปัญหาขัดแย้งหรือข้อพิพาทสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทศาลแพ่งพระโขนง”

ในปี 2562 ที่ผ่านมาศาลแพ่งพระโขนงมีคดีที่ค้างมาจากปี 2561 จำนวนเกือบ 4,000 คดี และมีคดีที่ฟ้องเข้ามาตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 จนถึงวันที่ 27 ธันวาคม 2562 เป็นจำนวนก่าว 12,000 คดี จากการดำเนินงานของศาลแพ่งพระโขนงดังกล่าวมาข้างต้น ทำให้การพิจารณาพิพากษาคดีและการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเสร็จไปเป็นจำนวนมาก คงมีคดีค้างข้ามไปในปี 2563 ไม่ถึง 2,000 คดี ซึ่งคดีดังกล่าวที่ค้างไปนั้นเป็นคดีที่ยื่นฟ้องเข้ามาในเดือนธันวาคม 2562 จำนวน 900 กว่าคดี ทำให้ศาลไม่สามารถนัดพิจารณาคดีให้แล้วเสร็จในปี 2562 ได้ เนื่องจากระยะเวลาในการส่งหมายเรียกและคำคู่ความให้แก่คู่ความอีกฝ่ายต้องใช้เวลาพอสมควร

ดังนั้น ในปี 2563 ตนเชื่อมั่นว่านโยบายของประธานศาลฎีกาที่กำหนดให้ทุกศาลนำมาใช้ปฏิบัติจะสามารถทำให้การพิจารณาพิพากษาคดีของศาลเป็นไปโดยสะดวก รวดเร็ว ประหยัดและเป็นธรรม สร้างความพึงพอใจให้แก่คู่ความ ประชาชน สังคมและประเทศชาติต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image