วันที่ 29 มกราคม เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ห้องประชุมสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดภูเก็ต พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้มีการนำเสนอข้อมูลการตรวจสอบหลักฐานเพื่อยืนยันการตั้งชุมชนของชาวไทยใหม่ (ชาวเล) ราไวย์ สืบเนื่องจากเมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมา ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับเรื่องการร้องเรียนของชาวไทยใหม่ราไวย์ เพื่อขอให้ตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินจาก ส.ค.1 ทับที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวไทยใหม่ราไวย์ และได้มีการนำหลักฐานดังกล่าวมาฟ้องขับไล่ชาวบ้าน ซึ่งมีคดีอยู่ 3-4 คดี โดยบางคดีได้มีการพิพากษาในชั้นศาลฎีกาแล้ว ซึ่งชาวบ้านแพ้ และบางคดีอยู่ในศาลอุทธรณ์ รวมทั้งบางคดีเพิ่งเริ่มต้น โดยที่ดินที่ตั้งชุมชนนั้นเป็นแปลงที่ดินซึ่งอยู่ติดกับที่ดินที่ชาวไทยใหม่มีข้อพิพาทเรื่องทางสาธารณะที่ใช้สำหรับไปประกอบพิธีกรรมกับเจ้าของที่ดินที่มีการยืนยันกรรมสิทธิ์ จนเป็นที่มาของการเกิดเหตุปะทะกัน
“จากการที่ได้ลงพื้นที่และให้มีการบอกเล่าที่มาของการตั้งชุมชน พิธีกรรมต่างๆ พบว่า ชาวไทยใหม่ได้มีการตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณดังกล่าวมาเป็นเวลานับ 100 ปี อันเป็นผลมาจากการตรวจสอบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นโครงกระดูกที่มีการขุดพบภายในชุมชน ซึ่งได้นำไปตรวจสอบดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับคนในชุมชนพบมีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน รวมไปถึงรายชื่อของนักเรียนที่มีการทำบันทึกไว้ที่โรงเรียนวัดสว่างอารมณ์ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากชุมชนไปประมาณ 1 กม. และภาพของบุคคลในชุมชนที่รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อปี 2502 ตลอดจนการอ่านแปลภาพถ่ายตั้งแต่ปี 2493 ซึ่งเห็นเส้นทางเดินคล้ายจะเป็นทางสาธารณะก่อนจะมีการออกเอกสารสิทธิ ส.ค.1 ในปี 2498” พ.ต.ท.ประวุธกล่าว
พ.ต.ท.ประวุธกล่าวด้วยว่า ในส่วนของที่ดินแปลงที่เป็นข้อพิพาทเรื่องทางเดินสาธารณะไปยังที่ประกอบพิธีกรรมนั้น แม้จะเป็นคนละแปลงกัน แต่มีรอบเขตติดต่อกัน ซึ่งที่เป็นปัญหาคือ การที่ทางเจ้าของที่ดินจะปิดเส้นทางเข้า-ออก และเป็นไปได้ว่าการโฉนดนั้นได้ครอบทางสาธารณะที่มีการใช้ประโยชน์อยู่เดิม เห็นได้จากการอ่านแปลภาพถ่ายซึ่งพบทางสาธารณะปรากฏอยู่ และในส่วนของข้อมูลหลักฐานต่างๆ ทั้งหมดนั้นทางดีเอสไอก็จะนำไปเสนอต่อทาง จ.ภูเก็ตเพื่อเป็นส่วนหนึ่งประกอบการพิจารณาหาข้อยุติข้อพิพาทระหว่างชาวไทยใหม่กับเจ้าของที่ดิน ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ และในส่วนของดีเอสไอ โดยท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็ได้สั่งการให้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวด้วย
นอกจากนี้ พ.ต.ท.ประวุธกล่าวอีกว่า ทางดีเอสไอต้องอาศัยหน่วยงาน เช่น โบราณคดี นิติวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญแผนที่ ผู้เชี่ยวชาญอ่านแปลภาพถ่าย ผู้เชี่ยวชาญสืบสวนสอบสวน เป็นต้น ซึ่งชาวบ้านคงหาแบบที่เราทำไม่ได้ จึงต้องการให้ชาวบ้านนำเอาหลักฐานเหล่านี้ต่อสู้อย่างเป็นธรรมให้ศาลพิจารณาอย่างรอบด้าน และเชื่อว่า แนวทางที่เราได้ขุดคุ้ยมาตลอด ชาวไทยใหม่ราไวย์ได้เข้าใจวิธีการทำงานเปิดเผย เชื่อว่าพวกเขาเชื่อมั่นพยานหลักฐานที่เรารวบรวมมา เพื่อให้การในชั้นศาล เรียกสิทธิที่เขาควรจะได้กลับคืนมา และถ้าเกิดปัญหาตรงไหน เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษจะเข้าไปดูให้ ได้ช่วยหลายที่แล้ว เช่น สุสานไม้ขาว ได้ช่วยแก้ปัญหาเชิงบริหาร หาข้อเท็จจริง หาพยานหลักฐาน ชาวไทยใหม่ได้ที่ดินสุสานคืน ได้ผลักดันให้เกิดความเป็นธรรม รวมถึงชาวไทยใหม่ที่ราไวย์ รวมทั้งรัฐบาลได้ตั้งคณะทำงานที่ช่วยเหลือชาวไทยใหม่ ทั้งระบบมีหลายที่ในภูมิภาคภาคใต้ พยายามหาหลักฐานช่วยที่เกาะหลีเป๊ะ เกาะพีพี พยายามหาหลักฐานให้เกิดความเป็นธรรมกับพวกเขาทั้งหมด