สาวใหญ่ร้องสื่อ บ้านน้องชายติดคุก ถูกลอบเผา ติงเจ้าหน้าที่ตร.1 เดือนคดีไม่คืบ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางสาวสุณัฐฑิชา ทุ่ยอ้น อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/4 หมู่ที่ 4 ต.ตะเสะ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง ว่าในช่วงกลางคืนวันที่ 1 มกราคม 2563 บ้าน เลขที่ 12 หมู่ที่ 5 ต.ตะเสะ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง เป็นบ้านของนายประสาร ทุ่ยอ้น น้องชายของตน ซึ่งตนดูแลความเรียบร้อยให้อยู่ตลอด แต่คืนเกิดเหตุไม่มีคนอาศัยอยู่ โดนคนร้ายเข้าไปในบ้านลอบวางเพลิงไฟลุกไหม้จนได้รับความเสียหายบางส่วนของบ้าน โชคดีที่เพื่อนบ้านใกล้เคียงได้ช่วยกันดับได้ทัน ก่อนที่ไฟจะลุกไหม้หมดทั้งหลัง ในขณะที่น้องชายของตนซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ตอนนี้ได้รับโทษติดคุกอยู่ในเรือนจำ 6 เดือนแล้ว ไม่มีส่วนรู้เห็นกับเหคุการณ์ในครั้งนี้

นางสาวสุณัฐฑิชา กล่าวว่า โดยปกติตนเองจะอยู่บ้านของตนตอนกลางวันซึ่งเปิดร้ายขายของชำ แต่ช่วงกลางคืนจะมานอนเป็นเพื่อนกับคุณแม่ที่บ้านของคุณแม่ เลขที่ 54 หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 2 ต.ตะเสะ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง ส่วนบ้านของน้องชายไม่มีใครอยู่เพราะน้องชายติดคุกตนเองจะมาดูแลอาทิตย์ละครั้ง เดือนละ 3-4 ครั้ง ตามที่สะดวก ซึ่งเหตุการณ์ไฟไหม้เกิดในช่วงวันที่ 1 มกราคม 2563 ช่วงเวลาประมาณ 05.00 น. ตามที่เพื่อนบ้านบอกตน ซึ่งเพื่อนบ้านโทรไปบอกตอน 08.00 น. หลังจากทราบจากเพื่อนบ้านก็รีบเดินทางมายังที่เกิดเหตุ ชาวบ้านช่วยกันดับไฟจนมอดสนิท ซึ่งพบว่ากระจกหน้าต่างบานเกร็ดโดนถอดออกมุดเข้าไปทางหน้าต่าง เข้าไปจุดไฟในห้องนอน เผาตู้เสื้อผ้าเหลือแต่ซาก เปลวไฟลุกลามไหม้ขึ้นไปจนทะลุหลังคาแตกเป็นรูโบ๋ จากนั้นได้เอาผ้าในตู้นำไปจุดที่ห้องครัวจนเป็นกองขี้เถ้า มีขวดน้ำ พบร่องรอยน้ำมัน รอยไฟไหม้ 2 ขวดวางอยู่ในกองขี้เถ้า หลังจากเกิดเหตุได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางมาถึงประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า พร้อมกับฝ่ายปกครองและตำรวจเข้ามาตรวจสอบ เช่น นายอำเภอหาดสำราญ ผบก.ภจว.ตรัง ผกก.สภ.หาดสำราญ รอง ผกก.ป. สภ.หาดสำราญ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หาดสำราญ กองพิสูจน์หลักฐาน ได้หลักฐานลายนิ้วมือ

นางสาวสุณัฐฑิชา ยังกล่าวว่า ซึ่งมีการสอบถามตน ก่อนหน้านี้ตนก็ไม่ได้ขัดแย้งกับใคร การที่บ้านโดนเผานั้นก็ไม่ทราบสาเหตุ ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าตอนนี้เขาก็หาข้อมูล  อย่างไรก็ตามเหตุที่ตนเองร้องทุกข์ผ่านสื่อเพราะตนมองว่าการทำงานของตำรวจล่าช้าขอเวลาตั้ง 1 เดือน ตนเองจึงอยากจะร้องผ่านสื่อว่าขอให้ตำรวจทำเร่งคดีให้เร็วที่สุด 1 เดือนมันช้าไป ตนเองอยากให้หน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือให้มันเร็ว ที่สุดเท่าที่จะเร็วได้และก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่และตำรวจจะเดินทางกลับไปมีตำรวจนายหนึ่ง เข้ามาสั่งตนว่าห้ามแจ้งนักข่าว เพราะนักข่าวเข้ามาวุ่นวาย ทำงานยาก ไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ หากนักข่าวเข้ามาทำข่าวตนจึงแย้งไปว่าตนเองต้องการให้นักข่าวช่วยด้วย เพราะตนเชื่อว่านักข่าวช่วยได้อีกทางหนึ่ง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดการทำคดีและติดตามคนร้ายเพื่อนำมาดำเนินคดีเร็วขึ้น จึงได้ร้องเรียนกับสื่อมวลชนในวันนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image