เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.นครพนม ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีนายจ้างสุดหื่น ข่มขืนลูกจ้างสาว อายุ 16 ปี จนตั้งครรภ์ และมีการบังคับให้ไปทำแท้ง เพื่อเคลียปัญหา พร้อมไล่ออกจากงาน ในร้านจำหน่ายรองเท้ามือสองแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม จนกระทั่งพ่อแม่ผู้ปกครอง รู้ความจริง จึงนำลูกสาวพร้อมเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริง รวมถึงมีการสอบปากคำนายจ้างเบื้องต้น
ส่วนเด็กสาวลูกจ้าง อายุ 16 ปี อยู่ระหว่างรอทีมสหวิชาชีพสอบปากคำ ตามขั้นตอนกฎหมาย เพื่อสรุปรวบรวมพยานหลักฐาน แจ้งข้อหาเอาผิดนายจ้างดังกล่าว เบื้องต้นทางด้านนายจ้าง ได้ให้การภาคเสธ ต่อพนักงานสอบสวน อ้างว่าเป็นการสมยอม ซึ่งต้องรอการ สรุปพยานหลักฐาน ผลการสอบสอบโดยละเอียด และผลการตรวจร่างกายจากโรงพยาบาลนครพนม คาดว่าจะแล้วเสร็จอีกประมาณ 1 สัปดาห์
หากพบมีการกระทำผิดถึงแม้จะเป็นการสมยอม แต่ทางตำรวจจะได้แจ้งข้อหาเอาผิดเบื้องต้น เกี่ยวกับฐานความผิดพรากผู้เยาว์ อายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุด จำคุกตั้งแต่ 3-15 ปี และเป็นคดียอมความไม่ได้ ทั้งนี้ จะต้องรอสรุปผลการสอบสวน
ทั้งนี้ นอกจากหน่วยงานตำรวจ ยังได้มีหน่วยงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครพนม โดยทาง นางวษมล มณีสุต สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครพนม ได้นำเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแล ช่วยเหลือ ในเรื่องของสวัสดิการคุ้มครองแรงงานตามกฎหมาย เบื้องต้นพบว่า นายจ้างดังกล่าว มีการกระทำผิด ตาม พ.รบ.แรงงาน เนื่องจากมีการแจ้งงานแรงงาน เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยไม่มีการแจ้งพนักงานตรวจแรงงาน ตามกฎหมายแรงงาน รวมถึง มีการเอารัดเอาเปรียบลูกจ้าง รวมถึง มีการไล่ออกลูกจ้าง โดยไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า ซึ่งอยู่ระหว่างการ ตรวจสอบ ข้อเท็จจริง และให้การดูแลช่วยเหลือทุกด้าน
ด้าน นางวษมล มณีสุต สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่อง ได้ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง เข้าไป ตรวจสอบ ดูแล ช่วยเหลือ เบื้องต้น จะดูเรื่องการจ้างงานของนายจ้าง ที่เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายแรงงาน ที่มีการจ้างงานเด็กต่ำกว่า 18 ปี รวมถึง ไม่ได้ รับสวัสดิการตามกฎหมาย เกี่ยวกับเรื่องวันหยุดงานตามสิทธิ์ ไปจนถึงการถูกเอารัดเอาเปรียบในการจ้างงาน และมีการเลิกจ้างโดยไม่มีเหตุผล หรือการบอกกล่าวล่วงหน้า ซึ่งจะได้ สอบข้อเท็จจริง และดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายแรงงาน ทั้งนี้หากใครฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย อาจได้รับโทษสูงสุด ทั้งทางอาญา และทางแพ่ง หรือถูกปรับเงินเป็นจำนวนสูงสุดถึง 800,000 บาท เพราะกฎหมายเปิดโอกาสให้เยาวชนทำงานรับจ้างได้ แต่ไม่เปิดโอกาสให้นายจ้างเอารัดเอาเปรียบผู้ที่อ่อนแอและยังเป็นเยาวชนอยู่ ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้จะได้ดูแลช่วยเหลือ เกี่ยวกับเรื่องจัดหางาน ให้เด็กที่ตกเป็นเหยื่อมีงานทำด้วย เพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาว
