ฝากขังครั้งแรก ‘ไอซ์ หีบเหล็ก’ ครอบครองยา-ปืน ไร้ญาติประกันนอนคุก

ฝากขังครั้งแรก ไอซ์ หีบเหล็ก ครอบครองยา-ปืน คดียัดสาวใส่หีบฆ่าฝังดินยังรอสอบสวน ไร้ญาติประกันนอนคุก

เมื่อวันที่ 11 มกราคม ที่ศาลอาญาธนบุรี ถ.บางบอน-เอกชัย ร.ต.อ.สายยุทธ์ ยศคำ พนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม ได้ควบคุมตัว “นายอภิชัย หรือไอซ์ องค์วิศิษฐ์” อายุ 40 ปี ที่อยู่ 58 ซ.เพชรเกษม 47 แขวง-เขตบางแค กทม. ผู้ต้องหา มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก คดีครอบครองยาบ้า-ยาไอซ์ เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-22 ม.ค.นี้ เนื่องจากต้องทำการสอบสวนพยานอีก 7 ปาก และรอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหาและประวัติต้องโทษของผู้ต้องหา รวมทั้งผลการตรวจพิสูจน์ของกลางด้วย และเนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษสูง หากปล่อยตัวไปเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงกับหลักฐานอื่น โดยผู้ต้องหานี้ได้มีความผิดเกี่ยวกับการฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยการซ่อนเร้นศพ ซึ่งพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้อยู่ พนักงานสอบสวนจึงขอคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหานี้ไว้ด้วย

โดยระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 8 ม.ค.63 เวลาประมาณ 00.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี ได้ทำการจับกุมตัวนายเฉลิมชนม์ งะบัว อายุ 51 ปี ในข้อหามียาไอซ์ ซึ่งเป็นเมทแอมเฟตามีน ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และจากการสอบถามนายเฉลิมชนม์ให้ถ้อยคำว่ารู้จักกับนายอภิชัย หรือไอซ์ ผู้ต้องหาคดีนี้ตอนติดคุก ซึ่งหลังจากนายเฉลิมชนม์ออกมาจากเรือนจำ ก็ได้พบกับผู้ต้องหาที่บ้านเลขที่ 58 ซ.เพชรเกษม ย่านบางแค โดยนายเฉลิมชนม์เข้า-ออกบ้านได้เป็นอย่างดีเพื่อคอยดูแลซ่อมแซมบ้านและมีการเสพยาเสพติดกันภายในบ้านเป็นประจำ ต่อมาเมื่อเดือน พ.ค.62 นายเฉลิมชนม์เห็นว่ามีผู้หญิงมาอยู่กินนอนที่บ้านของผู้ต้องหาเป็นประจำ กระทั่งเดือน ก.ค.62 เห็นผู้ต้องหาทำร้ายร่างกาย น.ส.กิ๊ก ด้วยเหล็กแป๊บและใส่กุญแจมือ บังคับให้รับประทานข้าวให้หมด หากไม่หมดก็จะถูกทำร้ายร่างกาย และให้คลานเข้าไปนอนในหีบเหล็กและปิดฝาสนิทไม่มีรูระบายอากาศ น.ส.กิ๊กได้ร้องขอความช่วยเหลือแต่กลับเปิดเพลงเสียงดัง หลังจากนั้นนายเฉลิมชนม์ก็กลับที่พัก จนเช้าวันต่อมานายเฉลิมชนม์ได้เข้ามาหาผู้ต้องหาที่บ้านเพื่อทานข้าวและพบว่า น.ส.กิ๊กเสียชีวิตแล้ว นายเฉลิมชนม์และผู้ต้องหาจึงช่วยกันนำศพใส่ในถุงดำและนำไปขุดดินฝังไว้ที่บริเวณหลังบ้านของผู้ต้องหา

เมื่อทราบข้อมูลแล้ว ชุดจับกุมจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายค้นบ้านหลังดังกล่าวเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ม.ค.63 เวลาประมาณ 10.30 น. จึงได้เข้าทำการตรวจค้นพบ น.ส.นิภาภรณ์ องค์วิศิษฐ์ ยินยอมให้ทําการตรวจค้นและให้การว่าบ้านหลังดังกล่าวนั้นมีผู้ต้องหาซึ่งเป็นหลานชายเป็นผู้ครอบครองและพักอาศัยเพียงผู้เดียว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกให้เปิดประตู ปรากฏว่าไม่ยอมเปิดประตู ประกอบกับการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาจะพกพาอาวุธปืนอยู่ตลอดเวลา จึงได้ผลักประตูเข้าไปพบว่าหลบอยู่ในห้องน้ำ จึงได้แสดงหมายค้นให้ดูและอธิบายวัตถุประสงค์ให้ทราบและเข้าใจแล้ว จึงขอทำการตรวจค้นโดยเป็นผู้นำตรวจค้นห้อง

Advertisement

ซึ่งผลการตรวจค้นพบยาเสพติดของกลางและอาวุธปืนวางอยู่บนเตียงนอนของผู้ต้องหา ประกอบด้วยยาไอซ์ ชนิดเกล็ดสีขาวบรรจุอยู่ในซองพลาสติกใสจำนวน 2 ถุง น้ำหนักเฉพาะยา 9.23 กรัม ราคา 1,620 บาท และน้ำหนักเฉพาะยา 2.04 กรัมราคา 360 บาท , ยาบ้าชนิดกลมแบนสีส้ม 54 เม็ดและชนิดเดียวกันสีเขียว 2 เม็ดบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสจำนวน 1 ถุง รวมยาบ้า 56 เม็ด น้ำหนัก 5.04 กรัม ราคา 5,040 บาท, ยาบ้าชนิดกลมแบนสีส้มบรรจุอยู่ในหลอดพลาสติกใสจำนวน 1 หลอด รวมยาบ้า 22 เม็ดน้ำหนัก 1.98 กรัม ราคา 6,480 บาท, ยาเสพติดให้โทษประเภทกัญชา บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสชนิดรูดกดปิดปากจำนวน 3 ถุง น้ำหนักเฉพาะยา 2.07 กรัมราคา 100 บาท, อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อซีแซด รุ่นรามี่ สีดำ หมายเลขประจำปืน A462642 เครื่องหมายทะเบียน กท5141498 จํานวน 1 กระบอก ราคาประมาณ 40,000 บาท, แม็กกาซีนอาวุธปืนจำนวน 1 อัน, ลูกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 15 นัด

และเมื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ตามที่นายเฉลิมชนม์ให้การรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตามบันทึกรับสารภาพชุดจับกุมพนักงานสอบสวน จึงข้อกล่าวหาดำเนินคดีฐาน มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต, มียาเสพติดให้โทษประเภท (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15 วรรคสาม (2), 26, 66 วรรคสอง, 76, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 371 พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 4, 7, 8 ทวิ, 72,72 ทวิ ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ทั้งนี้ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้

Advertisement

ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการฝากขังแล้วไม่มีบุคคลใดยื่นประกันตัวผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงได้ควบคุมตัวไปขังที่เรือนจำพิเศษธนบุรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพฤติการณ์กล่าวหาฆ่า น.ส.กิ๊กนั้น พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานจึงยังไม่ได้ยื่นคำร้องฝากขังข้อหาดังกล่าวในวันนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image