เปิดเหตุผล อัยการไม่ฟ้องชัยวัฒน์-พวก คดีฆ่า ชี้DNAไมโทคอนเดรีย ไม่ได้ยืนยันว่าใช่ ‘บิลลี่’

จากอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 สั่งไม่ฟ้องนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) ปัตตานี และอดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นายบุญแทน บุษราคัม นายธนเสฏฐ์ หรือไพฑูรย์ แช่ม และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ ในข้อหาร่วมกันฆ่านายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 สั่งไม่ฟ้องนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) ปัตตานี และอดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นายบุญแทน บุษราคัม ผู้ต้องหาที่ 2 นายธนเสฏฐ์ หรือไพฑูรย์ แช่ม และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ ในข้อหาร่วมกันฆ่านายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยไตร่ตรองไว้ก่อน

เมื่อวันที่ 26 ม.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับความเห็นในประเด็นไมโทคอนเดรีย ที่อัยการให้ความส่งกลับมายังดีเอสไอนั้นระบุว่า วิธีการการตรวจหาสารพันธุกรรมในไมโทคอนเดรีย เป็นเพียงวิธีการตรวจหาพันธุกรรมของบุคคลในสกุลเดียวกันจากพันธุกรรมฝ่ายมารดา(หญิง) ในสกุล โดยวิธีนี้บอกได้เพียงว่าบุคคลที่ต้องการตรวจหาพันธุกรรมนั้น สืบสกุลจากหญิงสกุลใดเท่านั้น โดยวิธีการนี้บอกได้ว่าบุคลลที่ต้องการตรวจพันธุกรรมนั้นสืบสกุลมาจากหญิงนั้นๆ ตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ ยายของยายจนถึงเหลน โดยในคดีนี้กระดูกชิ้นส่วนมนุษย์ในคดีนี้ยืนยันได้เพียงว่า กระดูกชิ้นส่วนมนุษย์นี้ มีสารพันธุกรรมเดียวกับมารดาของยายพอละจีฯ เท่านั้น ไม่มีพยานบุคคลใดยืนยันได้ถึงแม่ของยาย และยายของยาย ที่เลยไปว่าชั้นมารดา ของนายพอละจีฯ ได้เลยว่ามีการสืบสายโลหิตแบ่งออกไปกี่สาย และบุคคลในแต่ละสายบ้างที่ยังชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตไปแล้ว

รายงานข่าวยังระบุอีกว่า วิธีการนี้จึงยืนยันได้เพียงว่าชิ้นส่วนกระดูก มนุษย์ที่พบเป็นบุคคลในสกุลเดียวกันที่สืบสานมาจากหญิงในสกุลเดียวกันเท่านั้น แต่ไม่อาจยืนยันได้ว่ากระดูกมนุษย์ดังกล่าวเป็นใคร จะใช่นายพอละจีหรือไม่ หรือเป็นบุคคลในสกุลเดียวที่สืบสายมาจากหญิงในสกุลเดียวกันเท่านั้น จึงไม่อาจยืนยันว่านายพอละจีถึงแก่ความความตายไม่แล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image