“ผกก.ทุ่งสองห้อง”น้ำตารื้น เสียใจ”ร.ต.อ.”ยิงตัวตาย ยันให้ถอนตัวคดียึดรถ204คันแล้ว

เมื่อเวลา 14.45 น. วันที่ 30 มกราคม ที่อาคารสนมสุทธิพิทักษ์ อนุสรณ์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติงานแก่ข้าราชการตำรวจฝ่ายสอบสวน บก.น.2 โดยมีพล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 พร้อม ผกก. และหัวหน้าพนักงานสอบสวน ทุกสน.ในพื้นที่บก.น.2 ร่วมประชุม กว่า150 นาย
ผกก.2
โดยพล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวก่อนการประชุมว่า มามอบนโยบายแก่พนักงานสอบสวน พร้อมให้กำลังใจและความรู้ในการทำหน้าที่พนักงานสอบสวน ตนรับตำแหน่งในสายงานสอบสวนมากว่า 34 ปี ยอมรับว่าหน้างานดังกล่าวค่อนข้างเครียด เนื่องจากต้องรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด และยังต้องถูกกดดันจากหลายฝ่าย แต่อยากให้พนักงานสอบสวนยึดเอาหลักการมาใช้ในการทำงาน ยืนยันว่าจะไม่มีการแทรกแซงแน่นอน จึงทำโครงการ “สั่งไม่ฟ้องเป็นศูนย์” เพื่อลดแรงกดดันพนักงานสอบสวน เมื่อสั่งไม่ฟ้องแล้ว ใครก็ไม่สามารถมากดดัน หรือบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่ต้องการได้ ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ต้องกลัวกับคำว่า อิทธิพล หากพนักงานสอบสวนทำตามกฎหมาย อย่าไปกลัวยืนยันว่าจะยืนอยู่เคียงข้างกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องแน่นอน
ผกก.3
“ตำรวจนครบาลไม่ต้องห่วงศานิตย์อยู่ ไม่ต้องกลัวใครมากดดัน ขอให้เชื่อมั่นว่าผมจะร่วมเคียงข้าง และปกป้องตำรวจที่ทำงานด้วยความถูกต้องของผมทุกคน ใครมาบังคับหรือกดดัน ให้มาบอกผมได้เลย”พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าว
ผกก.4
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีกระแสข่าวว่าสาเหตุที่ ร.ต.อ.ทวี หมื่นรักษ์ พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เจ้าของสำนวนคดีจำนำรถผิดกฎหมาย และยึดรถ 204 คัน ที่ลานจอดรถไอทีสแควร์ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2558 ใช้ปืนยิงตัวตาย เป็นเพราะถูกกดดันที่ไม่คืนรถให้กับเจ้าของรถและไฟแนนซ์ได้ พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนคนดังกล่าวทำตามกฎหมาย แล้วจะไปคืนรถได้อย่างไร ในเมื่อยังเป็นคดีความและยังไม่สามารถคืนได้ แต่ยืนยันว่าคดีดังกล่าวไม่มีเรื่องผลประโยชน์มาเกี่ยวข้องแน่นอน โดยที่ร.ต.อ.ทวีเครียดจนนำไปสู่การตัดสินใจยิงตัวดับนั้น มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเครียดทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว อยู่ระหว่างสอบสวน ในส่วนที่มีกระแสข่าวว่าตนให้ตำรวจในสน.ลงชื่อเพื่อเตรียมย้ายพ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.ทุ่งสองห้องนั้น ไม่เป็นความจริง ล่าสุดสอบถามไปยังพล.ต.ต.เจริญ ถึงกรณีที่เกิดขึ้น ว่ามีที่ไปที่มาอย่างไร เนื่องจากกระแสข่าวดังนั้นทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง และอาจถูกเข้าใจผิดได้ ขณะนี้จะยังไม่ย้าย ผกก.สน.ทุ่งสองห้องไปช่วยราชการที่ใด ต้องให้ความเป็นธรรมกับผกก.ด้วย สั่งการให้พล.ต.ต.เจริญ ตรวจสอบข้อเท็จจริงอ ทั้งนี้ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับลูกน้องทุกฝ่าย และจะไม่ยอมนำกระแสต่างๆที่เกิดขึ้นมาทำร้ายลูกน้องเป็นอันขาด จนกว่าเรื่องราวข้อเท็จจริงจะกระจ่าง

“ผมขอฝากไปถึงพนักงานสอบสวนทุกคนว่า ผมยังคงยืนยันว่า กฎหมายจะคุ้มครองคนดี กำจัดคนชั่ว ความถูกต้องและการปฏิบัติหน้าที่อย่างโปร่งใสจะเป็นเกราะกำบังให้ทุกคน ใครก็ตามที่ใช้อำนาจ บารมี อิทธิพล หรือบิดเบือนข้อเท็จจริงต้องติดคุก ขอให้พนักงานสอบสวนทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่และถูกต้องที่สุด” พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าว

ด้านพล.ต.ต.เจริญ กล่าวว่า สำหรับการเยียวยาครอบครัวของร.ต.อ.ทวี นั้น ทางผู้บังคับบัญชากำชับให้เยียวยาสุดความสามารถ จากการสอบถามบุคคลใกล้ชิดและเพื่อนที่ทำงานทราบว่า ร.ต.อ.ทวี เป็นคนตั้งใจทำงานมาก ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าถูกผกก.กดดันเรื่องการทำงานในคดีดังกล่าวนั้น ไม่น่าจะเป็นความจริง ในส่วนของพนักงานสอบสวนในคดียึดรถ ตั้งเป็นคณะกรรมการของบก.น.2ในการทำคดี รวมมีพนักงานสอบสวน15 นาย เป็นของสน.ทุ่งสองห้อง3คน โดยเมื่อเดือนธันวาคม 2558 ได้เพิ่มพนักงานสอบสวนจากสน.ทุ่งสองห้องอีก 3 นาย ก่อนจะเกิดเรื่องดังกล่าว

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามว่าร.ต.อ.ทวี ถูกกลุ่มชายอ้างว่าเป็นเจ้าของรถฟ้องศาลและทำหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งบก.น.2กรณีไม่ยอมคืนรถให้นั้น พล.ต.ต.เจริญ กล่าวว่า ในส่วนของบก.น.2 ยังไม่ได้รับหนังสือร้องเรียนดังกล่าว แต่ยอมรับว่าพอจะทราบว่าเมื่อ2-3สัปดาห์ก่อนหน้านี้ มีกาฟ้องศาลและร้องไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว แต่ไม่ทราบรายละเอียด เป็นไปได้ว่าร.ต.อ.ทวี อาจเครียดและถูกกดดันในเรื่องดังกล่าวได้ จนนำไปสู่การตัดสินใจยิงตัวตาย ทั้งนี้รับนโยบายจากพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ให้ตำรวจจับคู่บัดดี้ในการดูแลและช่วยเหลือกันแล้ว เชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยให้ตำรวจผ่อนคลายหรือหาทางออกเมื่อเครียดหรือเจออุปสรรคในการทำงานได้ เนื่องจากคู่บัดดี้ของแต่ละคนจะคอยเป็นหูเป็นตา สังเกตพฤติกรรมและรับฟังปัญหาซึ่งกันและกัน
ผกก.ร้องไห้
พ.ต.อ.เติมเผ่า กล่าวว่า ร.ต.อ.ทวี ที่ก่อเหตุยิงตัวเองเสียชีวิต เป็นบุคคลที่ขยันและจริงจังกับการทำงาน ภายหลังเข้ามาดูแลคดีการยึดรถ กว่า204คัน นั้น ทีมพนักงานสอบสวนชุดดังกล่าวถูกกดดันและถูกฟ้องร้องจากหลายฝ่าย ทั้งผู้รู้กฎหมาย บริษัทไฟแนนซ์ และเจ้าของรถ เกี่ยวกับการให้เร่งคืนรถของกลาง ก่อนเกิดเหตุ 5 วัน มีการประชุมคณะพนักงานสอบสวน ทางร.ต.อ.ทวี จึงพูดคุยกับตนว่าทำคดีไม่ไหวเนื่องจากถูกกดดันจากหลายฝ่าย จึงได้ให้กลับไปเข้าเวรปกติ และขาดจากการทำคดีดังกล่าว จนมาทราบภายหลังว่าเสียชีวิต

ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง กล่าวด้วยว่า เหตุผลที่ตนให้ร.ต.อ.ทวี ทำงานเยอะ ส่วนหนึ่งเพราะเล็งเห็นว่าเป็นคนมีฝีมือ ตั้งใจว่าเมื่อมีโอกาสทำงานเยอะ ตนก็จะเสนอให้เลื่อนเงินเดือน 2 ขั้น จนทำให้ภรรยาของ ร.ต.อ.ทวี เข้าใจผิดว่าตนให้งานหนักเกินไป จนทำให้ ร.ต.อ.ทวีเครียด

พ.ต.อ.เติมเผ่า กล่าวทั้งน้ำตาว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่ทราบว่าการเสียชีวิตของร.ต.อ.ทวี ส่วนหนึ่งจะมาจากที่ตนดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ดีหรือไม่ ยอมรับว่า ผู้ใต้บังคับบัญชาบางคนไม่พอใจการทำงานของตน จึงอาจมีการกลั่นแกล้ง หรือนำประเด็นดังกล่าวมาให้ร้าย อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ตน รายงานไปยังผู้บังคับบัญชา เกี่ยวกับปัญหาและแรงกดดันที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้บังคับบัญชารับรู้ปัญหาดังกล่าวมาโดยตลอดและให้ความสำคัญกับคดีมาก ทั้งนี้ตนไม่ได้เครียด หรือกดดันในกระแสข่าวที่ออกมาในทำนองว่ามีตำรวจในสน.ร่วมลงชื่อว่าไม่ประสงค์อยากปฏิบัติงานกับตน เนื่องจากมั่นใจว่าผู้บังคับบัญชาและคนที่รู้จักตนทราบดีว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image