เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 30 มกราคม นายเจตนา เหมมุน พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้รวบรวมพยานหลักฐานการกระทำความผิด ในการดูดทราย ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา หลังจากสอบแล้วพบว่า มีการบุกรุกดูดทรายเพื่อการค้า เป็นขบวนการ โดยมีข้าราชการหลายระดับเกี่ยวข้อง และมีผู้มีอิทธิพลใช้อิทธิพล ดำเนินการกดดัน เสนอประโยชน์ ให้กับผู้เกี่ยวข้อง จนนำไปสู่การรายงานข้อเท็จจริงอันเป็นเท็จต่อ อธิบดีกรมป่าไม้ ปลัดกระทรวง และ รมต.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จนนำไปสู่การอนุญาตให้ใช้พื้นที่ แต่จังหวัดพังงา ไม่อนุญาตให้เก็บหาของป่า ขณะที่ มีการดูดทรายโดยที่ข้าราชการที่เกี่ยวข้องเพิกเฉย มาเป็นเวลา 4 เดือน ทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ เป็นมูลค่าหลายสิบล้านบาท
“ผมกำลังรอเอกสารเป็นทางการจาก ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.พังงา และสำนักอนุรักษ์ป่าที่ 12 บันทึกประจำวัน สภ.ท้ายเหมือง ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พง.2 ไปแจ้งความร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดีกับผู้ที่ได้รับอนุญาตจาก รมต.ทส. ในการใช้พื้นที่ แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เก็บของป่า หรือดูดทราย จาก จ.พังงา หากได้รับเอกสารครบถ้วนสมบูรณ์จะเสนอต่อ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผบ.สำนักคุ้มครองผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม พิจารณาจะเสนอให้พิจารณาว่า จะเสอนต่อคณะกรรมการคดีพิเศษรับเป็นคดีพิเศษ หรือไม่ เนื่องจากคดีนี้ เกิดความเสียหายต่อรัฐ และมีผู้มีอิทธิพลใช้อิทธิพลบุกรุกดำเนินการดูดทรายไปขาย” นายเจตนาฯ กล่าว
ด้านพ.ต.ท.สุภาพ ดิสสระ พงส.ชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานสอบสวน สภ.ท้ายเหมือง เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากนายกฤษฎา สุตนพัฒน์ หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พง.2 ท้ายเหมือง ให้ดำเนินคดีกับนายอนุศาสน์ สิทธิโชค นายทุนกับพวกที่รวมกระทำความผิด เข้าไปดูดทรายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองทุ่งมะพร้าว โดยไม่ได้รับอนุญาต
