ความคืบหน้าการขยายผลจับกุมเครือข่ายแก๊งอุ้มบุญชาวจีน เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์(บก.ปคม.)
พ.ต.อ.มานะ กลีบสัตบุศย์ รอง ผบก.ปคม.เปิดเผยว่า ทางการจีนได้ประสานกลับมาแล้วว่า จะจัดส่งคณะทำงานมาร่วมติดตามความคืบหน้าคดีนี้อย่างใกล้ชิด แต่ยังระบุวันและเวลาว่าจะส่งมาเมื่อไหร่ ซึ่งข้อมูลที่ได้ขอให้ทางการจีนช่วยติดตามตรวจสอบ คือ สภาพความเป็นอยู่ของเด็กที่เกิดจากการอุ้มบุญ 14 คน,บริษัทเอกชนที่ต้องสงสัยว่าเป็นนายทุนว่าจ้างการอุ้มบุญ รวมถึงการประสานขอตัว น.ส.ณัฐกมล จิตรวิชัย ผู้ต้องหาตามหมายจับรายที่ 10 ในกลุ่มเจ้าหราน ที่ถูกจับกุมไปตั้งแต่เดือนเมษายน 2562 กลับมาสอบสวนและดำเนินคดีในไทย โดยขณะนี้ ยังไม่ชัดเจนว่าขบวนการนี้จะเกี่ยวข้องกับการค้าอวัยวะของมนุษย์หรือไม่ ต้องรอทางการจีนตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง
รายงานแจ้งว่า มีกลุ่มที่ไปจัดหาหญิงมาเป็นแม่อุ้มบุญมากกว่า 3 กลุ่มขึ้นไป แต่รายละเอียดยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเส้นทางการเงิน หรือบุคคลถูกกล่าวอ้างถึง ซึ่งฝ่ายสืบสวนกำลังลงพื้นที่ภาคอีสานไปตรวจสอบข้อมูลเนื่องจากเป็นภูมิภาคแรกที่พบความเคลื่อนไหวของขบวนการตั้งแต่ช่วงปี 2560 พร้อมติดตามแม่อุ้มบุญที่มีรายชื่อปรากฎในเอกสารที่ตรวจยึดได้จากบ้านผู้ต้องหามาสอบถ้อยคำเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง
รายงานข่าวเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเครือข่ายอุ้มบุญของนายเจ้า หราน นายทุนชาวจีนที่ว่าจ้างนายหน้าให้หาหญิงชาวไทยมารับจ้างอุ้มบุญ พบว่าได้แตกสาขาออกมามากกว่า 3 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มนายเจ้า หราน, กลุ่มนายจักรัตน์ กิตติวนิชย์กุล อายุ 53 ปี และ น.ส.กุลิสรา ป้อมเด็ด อายุ 43 ปี นายหน้าชาวไทยและเป็นผู้ที่พาแม่อุ้มบุญเดินทางเข้าออกประเทศที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ และอีกกลุ่มอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานที่แน่ชัดทั้งนี้ อาจมีแม่อุ้มบุญมากกว่า 20 ราย
ส่วนนายจักรัตน์ กับ น.ส.กุลิสรา พบว่าทั้งคู่เป็นอีกเครือข่ายที่ถูกตั้งขึ้นมาแข่งหาลูกค้ากันเองกับกลุ่มอุ้มบุญของนายเจ้า หราน ซึ่งตอนนี้พบว่ามีนายทุนใหญ่สั่งการมาจากประเทศจีน โดย น.ส.กุลิสรา ในอดีตเคยเป็นพยาบาลโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่รับจ้างดูแลหญิงอุ้มบุญตั้งแต่ปี 2551 สมัยที่การอุ้มบุญยังไม่ผิดกฎหมาย จนเป็นที่รู้จักในขบวนการกลุ่มนี้ ก่อนจะลาออกจากงานมารับจ้างอุ้มบุญร่วมกับนายจักรัตน์ ในการพาแม่อุ้มบุญทั้งหมดในสาขาตัวเองไปคลอดยังเมืองเซี่ยเหมิน ในมณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
