วันที่ 5 กรกฎาคม เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รอง ผบก.ภ.จ.ยะลา พ.ต.อ.มุสตอพา มะนิ ผกก.สภ.บันนังสตา ร.ต.อ.ณรงค์ชัย เวชนิล รอง สว.(สอบสวน) เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด”ศรศึก-ศรชัย”ภ.จ.ยะลา ฝ่ายพิสูจน์หลักฐาน 10 ยะลา พร้อมผู้เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 79 ยิงกระสุนปืนไปตกลงในพื้นที่ จำนวน 2 ลูก ลูกแรกตกลงหน้ามัสยิดกลางบันนังสตา หมู่ 2 ต.บันนังสตา อยู่บริเวณตรงกันข้ามกับ สภ.บันนังสตา ที่เกิดเหตุอยู่บนทางหลวงสาย 410(ยะลา-เบตง) ตรงหลัก กม.ที่ 38 อยู่ห่างจากหน้ามัสยิดราว 10 เมตร
พบหลุมตื้นๆ เศษสะเก็ดระเบิดกระจัดกระจาย เป็นจุดที่มีชาวบ้านเสียชีวิต 1 ราย คือนายอับดุลเราะแม โต๊ะตาหยง อายุ 65 ปี อาการสาหัส และเสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ส่วนอีก 3 รายที่เป็นเครือญาติกันได้รับบาดเจ็บ ได้แก่ 1. ด.ช.ไฟศอล สาคอ อายุ 11 ปี 2. นายอิมรอน สาคอ อายุ 17 ปี และ 3. นายซอลาอุดดิน สาค อายุ 20 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยฮิลาลอะห์มัรบันนังสตา นำส่งโรงพยาบาลบันนังสตาภายหลังเกิดเหตุเวลา 20.00 น. วันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่อีกจุดเกิดขึ้นห่างกันราว 5-10 วินาที ได้ตกลงบนหลังคาบ้านเลขที่ 2 หมู่ 2 ต.บันนังสตา ตั้งอยู่ใกล้กับมัสยิดกลาง เป็นบ้านของนายมะยากี เบญมุสลิม อายุ 60 ปี ทำให้หลังคาบ้านทะลุ กระสุนตกลงไปในห้องนอนของ น.ส.นุสรี เบญมุสลิม อายุ 15 ปี ลูกสาว ข้าวของเครื่องใช้เสียหาย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุไว้ ในชั้นนี้สอบพบว่า คนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 2 คน ใช้อาวุธปืนคนละกระบอก ซุ่มยิงมาจากฝั่งขวาริมแม่น้ำปัตตานีในพื้นที่ ต.บาเจาะ เป็นแม่น้ำที่ไหลผ่านตลาดบันนังสตา
รายงานระบุว่า สำหรับกลุ่มก่อความไม่สงบที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ ต.บาเจาะ คาดว่ากลุ่มเดียวกันนี้เคยใช้อาวุธปืนเอ็ม79 ยิงถล่ม สภ.บันนังสตา ที่ว่าการอำเภอบันนังสตา ที่ตั้งอยู่ติดกันมาแล้วรวมทั้งครั้งนี้ด้วย ไม่ต่ำกว่า 6 ครั้ง แต่ละครั้งมีอาคารบ้านเรือนของราษฎรส่วนใหญ่ได้รับความเสียหาย ส่วนอาคาร สภ.บันนังสตา และที่ว่าการอำเภอบันนังสตา ไม่ได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือข้าราชการไม่เคยได้รับบาดเจ็บแต่ประการใด เป็นการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงของเหล่าคนร้ายในช่วงท้ายของเดือนรอมฎอนซึ่งถือเป็นการต้อนรับฮิจเราะห์ศักราชใหม่ในวันที่ 6-7 ก.ค.นี้
