รวบหนุ่มปินส์หนีซุกไทยแฝงเป็นครู-นักร้องกว่า 10 ปี หลังก่อคดีเรียกค่าไถ่นักธุรกิจ 100 ล.

เมื่อวันที่ 6กรกฎาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ และผู้แทนตำรวจฟิลิปปินส์ ร่วมกันแถลงกุมนายแพททริค ฟิลิป กัสไทเรส อาลีมาเนีย สัญชาติฟิลิปปินส์ อายุ 41 ปี หลังได้รับการประสานงานจากตำรวจสากลประเทศฟิลิปปินส์ ว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นหัวหน้าแก๊งลักพาตัวเรียกค่าไถ่ในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งได้ลักพาตัวนักธุรกิจชาวฟิลิปปินส์เชื้อสายจีน เจ้าของธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในฟิลิปปินส์ แล้วเรียกเงินมากกว่า 100ล้านบาท เพื่อเป็นค่าไถ่จากญาติ ต่อมาเหยื่อหลบหนีออกมาได้แล้วให้ข้อมูลตำรวจจนวางแผนจับกุมผู้กระทำผิดร่วมแก๊งได้ทั้งสิ้น 5ราย โดยต่อมาศาลฟิลิปปินส์ได้ตัดสินลงโทษจำคุกตลอดชีวิตผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ยกเว้นผู้ต้องหารายนี้ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งได้หลบหนีออกจากฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2547เดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยหลบหนีในประเทศไทยนานกว่า 10ปี ประกอบอาชีพเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่สถาบันการสอนภาษาแห่งหนึ่งและเป็นนักร้อง ส่วนเหตุผลในการก่อเหตุครั้งนี้เนื่องจากต้องการเงิน และที่เลือกหลบหนีมาไทยเนื่องจากคนฟิลิปินส์และคนไทยมีลักษณะคล้ายกัน

รองผบ.ตร.กล่าวว่า จากการสืบสวนของตำรวจสากลประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทราบว่าผู้ต้องหาอาศัยอยู่ในเขตร่มเกล้า กรุงเทพมหานคร โดยมีชาวฟิลิปปินส์ที่มาอาศัยในไทยแจ้งเบาะแส จึงได้สนธิกำลังตำรวจสากลประเทศไทย สถานีตำรวจนครบาลร่มเกล้า ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เข้าควบคุมและจับกุมตัวผู้ต้องหา โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองยกเลิกวีซ่า ส่วนสถานทูตฟิลบิปินส์ประจำประเทศไทยสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางเพื่อผลักดันกลับไปดำเนินคดีที่ฟิลิปินส์

ก.2
สำหรับผู้ต้องหารายนี้ จากข้อมูลการสืบสวนของตำรวจฟิลิปปินส์ ทราบว่าเป็นหัวหน้าแก๊งลักพาตัวเรียกค่าไถ่ และเกี่ยวข้องกับแก๊งลักพาตัวเรียกค่าไถ่หลายแก๊งในฟิลิปปินส์ จึงเป็นที่ต้องการตัวอย่างมากจากตำรวจฟิลิปปินส์ และจะเป็นคนร้ายข้ามชาติรายแรกที่ส่งไปดำเนินคดีภายใต้ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์คนใหม่ด้วย

อย่างไรก็ตาม ระหว่างการแถลงข่าวผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ ได้วิดิโอคอนเฟอร์เร้นสมาสนทนากับ พล.ต.อ.วุฒิ และขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ให้ความร่วมมือในการจับกุมบุคลที่ทางการฟิลิปปินส์ต้องการตัวมากที่สุด ซึ่งถือเป็นคดีแรกที่ตำรวจในอาเซียนร่วมมือกันคลี่คลายคดี

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image