ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 31 มกราคม ว่ามีการส่งต่อข้อความผ่านโปรแกรมไลน์ถึงการจราจรในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ว่าการเดินทางสำหรับผู้ที่อยู่แถบฝั่งธนฯ ต้องเตรียมใจกับผลกระทบจากการจราจร “ปิดถนนบรมราชชนนี” 3 ช่องทาง นาน 2 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ ใครที่ใช้ถนนบรมราชชนนีเป็นประจำ ได้เวลาเตรียมตัว เตรียมใจ และวางแผนการเดินทาง เพื่อรับมือกับผลกระทบจาก “การปิดถนน” ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร จะดำเนินการติดตั้งทางเชื่อม (แลมป์) ใน ถนนบรมราชชนนี และคู่ขนานลอยฟ้า เชื่อมถนนต่อเข้ากับทางด่วนพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก สร้างทางด่วนมาลงยังบริเวณบางซื่อ สถานีขนส่งหมอชิต 2 เพื่อเป็นการแบ่งเบาการจราจรที่จะใช้สะพานพระราม 8 สะพานพระปิ่นเกล้า
ทั้งนี้ ผู้รับเหมาจะเริ่มดำเนินการติดตั้งแลมป์ ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์-30 มีนาคม เป็นระยะเวลา 60 วัน จำเป็นต้องมีการ “เบี่ยงการจราจร” บริเวณซอยบรมราชชนนี 38-32 (บริเวณเชิงสะพานข้ามทางรถไฟตลิ่งชัน ถึง เชิงสะพานข้ามไปปิ่นเกล้า) เจ้าหน้าที่ตำรวจราจรจะปิดถนนใต้ถนนคู่ขนานลอยฟ้า บรมราชชนนี พื้นราบ จำนวนช่องซ้าย 2 ช่องทาง (ระยะทาง 300 เมตร) และปิดการจราจรบนคู่ขนานลอยฟ้าช่องซ้ายสุด 1 ช่องทาง (ระยะทาง 300 เมตร) ตั้งแต่บริเวณทางขึ้นคู่ขนานลอยฟ้า ซอยบรมราชชนนี 32 จึงจำเป็นจะต้องเบี่ยงการจราจรในจุดดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามพ.ต.อ.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลตลิ่งชัน(ผกก.สน.ตลิ่งชัน) โดยกล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ 1 กุมภาพันธ์ ยังไม่ปิดการจราจรฝั่งธนบุรี 3 ช่องทาง เนื่องจากกรมทางหลวงยังแก้ไขแบบแปลนโครงการไม่เสร็จ ใช้เวลาอีก 10 วัน ถ้าจะปิดจราจรจะแจ้งล่วงหน้า 3-4 วัน อย่างไรก็ตามขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้เส้นทางสัญจรผ่านจุดบริเวณดังกล่าวให้เข้าไปใช้แยกซอยลัดแทน หรือถนนตัดใหม่ที่ไปออกตรงสามแยกไฟฉาย ถนนเลียบทางรถไฟส่วนเส้นกาญจนา-บางแวกซึ่งปัจจุบันรถมากเต็มพื้นที่แต่ก็ยังมีกว่าใช้ถนนบรมราชชนนี
“ถ้ามีการเริ่มก่อสร้างกำลังตำรวจจราจรมีตามปกติ ไม่ได้เพิ่มเติม เป็นไปตามจุดที่เคยวางไว้อยู่แล้ว แต่อยากใช้ผู้จะใช้เส้นทางผ่านให้ออกแต่เช้าแต่กลับช้าหน่อย”ผกก.สน.ตลิ่งชันกล่าว
