รวบขบวนการขาย ‘แมสก์’ ออนไลน์เกินราคา ให้บัญชีนักธุรกิจบังกลาเทศ เงินหมุนหลักล้าน

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อม พล.ต.ต.ปฏิพัทธ์ สุบรรณ ณ อยุธยา รอง ผบช.ตชด.ปฏิบัติราชการ สตม., พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รอง ผบก.ตม.2 พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล ผกก.4 บก.สส.สตม. ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมคดีสำคัญ 5 คดี

โดยคดีแรกจับกุมนายชัย และ น.ส.ณัฐ (สงวนนามสกุล) พร้อมของกลางหน้ากากอนามัย 5,000 ชิ้น หลังชุดสืบสวน ตม.1 สืบทราบว่า มีบัญชีผู้ใช้ “หวางต้า Amazing’Tom Cafe” ในโปรแกรมวีแชต โพสต์ขาย หน้ากากอนามัยให้แก่คนไทยและชาวต่างชาติ โดยไม่จำกัดจำนวน จึงทำทีขอซื้อหน้ากากอนามัย จำนวน 5,000 ชิ้น โดยตกลงซื้อขายกันในราคาชิ้นละ 15 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 75,000 บาท และนัดหมายส่งมอบสินค้าบริเวณจุดจอดรถหน้าโรงแรมมิราเคิลแกรนด์ ถนนกำแพงเพชร 6 เขตหลักสี่ เมื่อถึงเวลานัดหมายก็พบนายชัยขับรถมาที่ลานจอด จึงแสดงตัวจับกุมก่อนตรวจสอบภายในตัวรถและกระโปรงท้าย พบลังกระดาษสีน้ำตาลจำนวน 5 ลัง ภายในบรรลุหน้ากากอนามัยยี่ห้อหนึ่ง จำนวน 5,000 ชิ้น จึงเข้าตรวจยึดไว้

โดยนายชัยรับสารภาพว่า สาเหตุที่โพสต์ผ่านโปรแกรมวีแชตเพราะสามารถพูดภาษาจีนได้ ซึ่งอาจมีลูกค้าชาวต่างชาติให้ความสนใจนอกเหนือจากลูกค้าชาวไทย ซึ่งในการซื้อขายแต่ละครั้ง จะมีนางสาวณัฐ เป็นนายทุน เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวนางสาวญัฐ มาสอบสวน โดยให้การว่ามีหน้าที่เป็นผู้ทำธุรการทางการเงินในการซื้อขายสินค้าจริง และใช้บัญชีชื่อ MR. ZAW นักธุรกิจ ชาวบังกลาเทศในการโอนเงิน และตนจะได้รับส่วนแบ่งจากการขายสินค้าดังกล่าว นอกจากนี้ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ยังคงตรวจสอบการโอนเงินของบัญชีผู้ต้องสงสัยในรอบ 7 วัน มีมูลค่าการหมุนเวียนทางการเงินจากการขายหน้ากากอนามัย เกินกว่า 1.7 ล้านบาท ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้ทำการสอบสวนขยายผลต่อไป

เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นสินค้าควบคุมในราคาสูงเกินสมควร หรือทำให้เกิดความปั่นป่วนซึ่งราคาของสินค้า” และนำตัวส่งหนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง แล้วดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

Advertisement

คดีที่สองจับกุม น.ส.ดวง (Ms.Doung) อายุ 33 ปี สัญชาติเวียดนาม หลังได้ร้บการประสานจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย บก.สถานีบีทีเอส (BTS) สยาม บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ว่าต้องสงสัยก่อเหตุล้วงกระเป๋าผู้โดยสารบริเวณในรถไฟฟ้าบีทีเอสพระโขนง ซึ่งมีผู้เสียหายมาแจ้งความไว้ว่าโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุงได้หายไป ต่อมาคล้อยหลัง 7 วัน ได้พบน.ส.ดวงมาที่สถานีสยามจึงคุมตัวไว้ จากการสอบสวนให้การรับว่าก่อเหตุจริง โดยได้เก็บโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายไว้ที่ห้องพักในซ.ลาดพร้าว 122 จึงนำกำลังไปตรวจสอบก็พบของกลางรวมทั้งสิ้น จำนวน 46 รายการ ประกอบไปด้วยโทรศัพท์มือถือ จำนวน 38 เครื่อง , เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า รวม 8 รายการ จึงได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินดังกล่าวและได้นำตัว น.ส.ดวงมายัง สตม.เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

คดีที่สาม จับกุมนายนครินทร์ อายุ 36 ปี , นายธนาวุฒิ อายุ 28 ปี พร้อมชาวเวียดนาม 12 คน สืบเนื่องจากการขยายผลการจับกุมขบวนการช่วยเหลือชาวเวียดนามที่เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายครั้งก่อน ซึ่งจากการขยายผลพบว่า ขบวนการดังกล่าวจะลักลอบนำชาวเวียดนามเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายทางรถโดยสารประจำทางสายนครพนม-กรุงเทพฯ และสายหนองคาย-กรุงเทพฯ จึงได้นำกำลังเข้าสกัดจับกุมรถ 2 คันได้ที่บริเวณริมถนนมิตรภาพ ก่อนเข้าตัวเมืองขอนแก่น

จากการตรวจค้นพบชาวเวียดนามหลบหนีเข้าเมือง 12 คน โดยในรถสายนครพนม-กรุงเทพฯ พบชาวเวียดนาม 6 คนนอนหลบซ่อนตัวในห้องนอนของพนักงานขับรถโดยไม่ได้นั่งในที่นั่งของผู้โดยสารตามปกติ สอบถามชาวเวียดนามแล้วรับว่าพนักงานประจำรถได้จัดให้พวกตนมาหลบซ่อนในห้องคนขับรถเพื่อให้พ้นจากการตรวจพบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนรถสายหนองคาย-กรุงเทพฯ พบชาวเวียดนาม 6 คน แต่นั่งในที่นั่งของผู้โดยสารตามปกติ จึงร่วมกันจับกุมพนักงานขับรถและพนักงานประจำรถตามข้อหาดังกล่าว นำตัวส่ง พงส.สภ.เวฬุวัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image