ดีเอสไอ พ่นฆ่าเชื้อโควิด พบบุคลากรติดเชื้อโควิด กักตัวเจ้าหน้าที่กว่า 100 ราย

ดีเอสไอ พ่นฆ่าเชื้อโควิด พบบุคลากรติดเชื้อโควิด กักตัวเจ้าหน้าที่กว่า 100 ราย

เมื่อวันที่ 2 เมษายน  คณะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ออกเอกสารข่าวชี้แจง กรณี เจ้าหน้าที่ในสำนักงานเลขานุการกรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease 2019: COVID-19) และได้มีคำสั่งกักตัวเจ้าหน้าที่และพนักงานราชการ กลุ่มเสี่ยงสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยแล้วกว่า 100 ราย นั้น

กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอชี้แจงให้ทราบว่า กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่มีบุคลากรของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease 2019: COVID-19) จริง โดย นายแพทย์ ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ให้บุคลากรในสำนักงานเลขานุการกรม และเจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษซึ่งมีการสัมผัสหรือใกล้ชิดกับผู้ป่วยซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยง กักตัว และให้ปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัย ตามประกาศสำนักงาน ก.พ.

และนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค และให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เป็นเวลา 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ 1-14 เมษายน 2563 โดยกำชับให้ถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด รับผิดชอบต่อ ตนเอง ต่อคนรอบข้าง และต่อสังคม รวมทั้งลดกำลังเจ้าหน้าที่ให้มาปฏิบัติงานที่สำนักงานเหลือร้อยละ 20 พร้อมกันนี้ยังได้จัดชุดเฉพาะกิจทำความสะอาดด้วยการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อภายในอาคาร และบริเวณพื้นที่สาธารณะทั่วบริเวณอาคารสำนักงานแล้ว

ในส่วนของการระวังป้องกันการแพร่ระบาดภายในองค์กร กรมสอบสวนคดีพิเศษได้เตรียมการและใช้มาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาด ฯ อย่างเข้มแข็งและต่อเนื่องมาตั้งแต่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดแล้ว ทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าอาคาร การทำความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นที่ส่วนรวมในอาคาร การกำหนดให้ใช้หน้ากากอนามัย รวมถึงรณรงค์เกี่ยวกับระยะห่างทางสังคมในการปฏิบัติงาน โดยกำชับให้บุคลากรกรมสอบสวนคดีพิเศษปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ดังที่ได้เผยแพร่ไปยังสื่อมวลชนแล้วก่อนหน้านี้ จึงทำให้โอกาสที่เชื้อจะแพร่กระจายภายในองค์กรมีน้อยลง

Advertisement

ทั้งนี้ นายแพทย์ไตรยฤทธิ์ ได้สื่อสารไปยังหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดให้ทราบถึงความเสี่ยงทางการแพทย์
ที่มีโอกาสจะติดเชื้อและให้ทำความเข้าใจกับบุคลการในสังกัดว่าที่ผ่านมากรมสอบสวนคดีพิเศษมีมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันที่เข้มข้นอยู่แล้วเพื่อมิให้ตระหนกเกินกว่าสถานการณ์

ส่วนของการปฏิบัติงานนั้นกรมสอบสวนคดีพิเศษมีการใช้ระบบการปฏิบัติงานบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ซึ่งรองรับการปฏิบัติงานจากนอกที่ตั้งเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ว่าเป็นระบบฐานข้อมูลเพื่อการปฏิบัติงาน (DATA WAREHOUSE) ระบบบริหารงานคดีพิเศษ (CASE MANANAGEMENT) หรือสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น รวมทั้งระบบการประชุมทางไกลผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนส์ซึ่งผู้บริหารและบุคลากรในสังกัดสามารถใช้
ในการปฏิบัติงานได้โดยที่ไม่แตกต่างกับการเข้า

ปฏิบัติงาน ณ สำนักงาน รวมทั้งสามารถระดมสรรพกำลังเพื่อปฏิบัติงานได้ทันทีที่มีความจำเป็น และภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษก็ได้จัดตั้งศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมพิเศษภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว เพื่อมิให้คนร้ายฉวยโอกาสก่ออาชญากรรมร้ายแรงซ้ำเติมประชาชนดังที่มีการเสนอข่าวไปแล้ว ซึ่งขณะนี้มีข้อมูลการข่าวหลายเรื่องที่อยู่ระหว่างการสืบสวนและเตรียมดำเนินคดี

Advertisement

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease 2019: COVID-19) ในระหว่างนี้ หากประชาชนมีความจำเป็นต้องติดต่อราชการกับกรมสอบสวนคดีพิเศษยังสามารถเดินทางมาติดต่อได้ แต่หากไม่จำเป็นต้องพบปะเจ้าหน้าที่โดยตรง หรือไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ท่านสามารถใช้การติดต่อสื่อสารผ่านช่องทางอื่นที่ได้ จัดทำไว้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เช่น การโทรศัพท์ สายด่วน DSI Call Center 1202 (โทรฟรีทั่วประเทศ) หรือการส่งจดหมายจ่าหน้าซองถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เลขที่ 128 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210 ก็ได้

ทั้งนี้ ในดีเอสไอได้ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาพ่นฆ่าเชื้อและทำความสะอาดภายในกรมสอบสวนคดีพิเศษ

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image