หน่วยพยัคฆ์ไพรแนะเจ้าของรีสอร์ตภูทับเบิก รื้อถอนเองดีกว่าให้จนท.ลงมือ เพราะจะโดนหนักกว่า

พยัคฆ์ไพรแนะเจ้าของรีสอร์ตภูทับเบิกรื้อถอนเองดีกว่าให้คณะเจ้าหน้าที่ลงมือ เพราะยังนำสิ่งก่อสร้างหรือทรัพย์สินไปใช้ประโยชน์ได้ แต่หากถูกเจ้าหน้าที่ตรวจยึดนอกจากตกเป็นของกลางแล้วยังต้องถูกเรียกค่าใช้จ่ายดำเนินการอีกด้วย

วันที่ 14 กรกฎาคม นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ กล่าวว่า หลังเห็นคำสั่งแบ่งแยกการทำงานของทางจังหวัดเพชรบูรณ์ตามคำสั่ง หน.คสช.ที่ 35/2559 แล้วค่อนข้างสบายใจเพราะมีความรัดกุมโดยมีการแบ่งขั้นตอนสอดคล้องกับคำสั่งดังกล่าว ซึ่งมีการแบ่งส่วนการทำงานออกเป็นส่วนฝ่ายปฏิบัติการ ฝ่ายกฎหมายและฝ่ายรื้อถอน ซึ่งคำสั่งเหล่านี้ออกมาทำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานได้อย่างคล่องตัว ที่สำคัญยังมีแอ๊กชั่นแพลนหรือแผนปฏิบัติการการรื้อถอนค่อนข้างชัดเจน ยกตัวอย่างที่ทางกรมฯมีประสบการณ์ในการรื้อถอนอย่างเช่นที่วังน้ำเขียว สมัยนั้นไม่ได้มีเครื่องมือพิเศษหรือคำสั่งพิเศษและไม่ได้มีการบูรณาการ ซึ่งวันนี้มีความชัดเจนมากมีการบูรณาการใน 3 หน่วยงานหลักๆ ได้แก่ พม. ทส. มท. นอกจากนี้ยังมีฝ่ายทหารโดยเฉพาะ กอ.รมน.เข้ามาช่วยสนับสนุนอีก

“เชื่อมั่นว่าผู้ประกอบการคงจะถอยออกไปเอง เพราะหากวันนี้ยังดื้อแพ่งต่อไปโดยทางคณะเจ้าหน้าที่ไปจัดการรื้อถอนเอง ประมาณการค่าใช้จ่ายดำเนินการคร่าวๆ ก็เป็นเงินหลายล้านบาท ซึ่งเงินค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะถูกเรียกเก็บจากเจ้าของหรือผู้ประกอบการในภายหลัง แต่หากผู้ประกอบการรื้อถอนเองก็ยังสามารถนำสิ่งก่อสร้างหรือทรัพย์สินไปใช้ให้เกิดประโยชน์ และไม่ต้องมาสิ้นเปลืองเงินทองที่ต้องถูกเรียกเก็บจากทางเจ้าหน้าที่อีก จึงขอให้ผู้ประกอบการและเจ้าของรีสอร์ตพิจารณาทบทวน เพราะวันนี้ค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้วว่าศาลมีคำตัดสินพิพากษาไว้แล้วและมีการบังคับแล้ว ในขณะที่เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปด้วยความถูกต้องเท่านั้น” นายชีวะภาพ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image