เมื่อวันที่ 4 เมษายน ผู้สื่อข่าวสอบถาม 1 ใน 158 คน ที่หลบหนีออกจากการกักตัวตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ภายหลังรัฐบาลมีมติให้กระทรวงการต่างประเทศชะลอคนไทยและต่างชาติที่จะเดินทางกลับเข้าไทยจนถึงวันที่ 15 เมษายน
โดยเล่าว่า เดินทางกลับมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ก่อนรัฐบาลไทยจะประกาศชะลอการเดินทางกลับเข้าประเทศ ตอนนั้นตนขอใบอนุญาตเดินทางจากสถานทูตไทยที่สหรัฐ พร้อมใบรับรองแพทย์ ก่อนจะต้องเดินทางมาเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศกาตาร์ แล้วกลับประเทศไทยด้วยเที่ยวบิน QR0832 ซึ่งต้องรอเครื่อง 11 ชั่วโมง เนื่องจากขณะนั้นทางกาตาร์สั่งลดเที่ยวบินพร้อมชะลอการเดินทางเข้าออกประเทศขณะที่พวกตนกำลังขึ้นเครื่องกลับกลุ่มที่อยู่ในสนามบินจะกลับไม่ได้แล้ว มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิประมาณ 13.00 น. ก็ผ่านการตรวจคัดกรองหลายอย่าง แต่เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่กลับไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน ต่อมาหลังเกิดเหตุชุลมุนขึ้นเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ชุดทหารเข้ามาไกล่เกลี่ย ซึ่งผู้โดยสารกลุ่มที่ได้รับการไกล่เกลี่ยก็จะกลับบ้านได้ แต่ไม่ทราบรายละเอียดเหตุการณ์มากนัก โดยกลุ่มตนถูกเจ้าหน้าที่แยกสอบถามภูมิลำเนา หากคนอยู่กรุงเทพฯ ให้ญาติรับกลับได้เลย หากไม่ใช่ก็จะพาไปส่ง แต่ไม่ระบุปลายทาง กระทั่งมาทราบว่าจะต้องไปถูกกักตัวที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ผู้โดยสารจึงเกิดความไม่พอใจ สุดท้ายเดินทางไปถึงช่วง 01.00 น. ทั้งนี้ สำหรับความเป็นอยู่ในสถานที่กักโรค อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่จะสอบถามว่าผู้โดยสารแต่ละรายมาจากไหน ก่อนจะคัดแยกกลุ่มแต่ละประเทศ พร้อมสอบถามความสมัครใจว่าจะยินยอมอยู่ร่วมกับผู้อื่นด้วยหรือไม่ เนื่องจากสถานที่รองรับไม่เพียงพอ ซึ่งวันนั้นมีคนที่ไม่สมัครใจ ทราบว่าสุดท้ายได้รับการส่งตัวกลับมากักตัวยังโรงแรมที่สนามบินสุวรรณภูมิ เว้นแต่กลุ่มที่มาเป็นครอบครัวจะได้อยู่ด้วยกัน
