จากกรณีร.ต อ ทวี หมื่นรักษ์ พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ใช้อาวุธปืนยิงปืนตัวตายในแฟลตข้าราชการ ใกล้สน.ทุ่งสองห้องเนื่องจากความเครียดที่ต้องรับผิดชอบคดี
โดยเมื่อเวลา 12.45 น. วันที่1 กุมภาพันธ์ ที่บ้านทรงไทย แจ้งวัฒนะ นายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ(กต.ตร.)สน.ทุ่งสองห้อง พร้อมชายคนหนึ่งอ้างเป็นเพื่อนของ ร.ต.อ. ทวี แถลงกรณีขอย้ายพ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง
นายสิระ เปิดเผยว่า วันนี้นำพยานคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ ร.ต.อ.ทวี มาเปิดเผย เหตุการณ์ก่อนที่ร.ต.อ.ทวี จะตัดสินใจยิงตัวตาย ทั้งนี้ยืนยันว่ามีคลิปเสียงจากตำรวจนายหนึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของผกก. บันทึกเสียงสนทนาระหว่างผกก.กับพนักงานสอบสวนทั้ง4คน ที่รับผิดชอบคดีจำนำรถผิดกฎหมาย 204 คัน โดยมี ร.ต.อ.ทวี เป็น1ใน4 พนักงานสอบสวนที่ถูกเรียกเข้าไปด้วย และถูกตำหนิอย่างรุนแรง
นายสิระ กล่าวว่า นอกจากนี้มีการรวบรวมรายชื่อ เจ้าหน้าตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง กว่า 200คน รวมทั้งชาวบ้าน เพื่อขอให้ผกก.สน.ทุ่งสองห้องย้ายออกไป เนื่องจากพบความไม่ชอบมาพากลในการทำงาน อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เคยมีตำรวจมาร้องเรียนถึงพฤติกรรมผกก.คนดังกล่าว ตนเคยเรียกผกก.มาชี้แจงกับกต.ตร.แล้ว แต่ถูกผัดผ่อนไม่เข้าพบและล่าสุดนัดให้มาชี้แจงในวันที่ 17กุมภาพันธ์ หากยังไม่มาพบอีกจะเข้าพบพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เพื่อชี้แจงถึงพฤติกรรมผกก.คนดังกล่าว และจะขอให้ย้ายผกก.ไปที่อื่น
“ผมไม่ต้องการปรักปรำ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันเลวร้ายเกินไป เพราะล่าสุดเมื่อวันที่ 31 มกราคมมีตำรวจโทรศัพท์มาหาผม พร้อมบอกว่าจะฆ่าตัวตาย ผมรีบเข้าไปที่สน.เพื่อปลอบและบอกให้ใจเย็นๆ ทุกวันนี้ผมพูดได้เลยว่าตำรวจที่เหลืออยู่ไม่มีขวัญและกำลังใจในการทำงานเลย แม้กระทั่งวันนี้ที่ทางผกก.จะเรียกประชุมตำรวจในสน.ทุ่งสองห้อง แต่ตำรวจในสน.กลับโทรมาหาผมและบอกว่าจะไม่เข้าร่วมประชุม จนผมต้องไปขอให้พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2เป็นประธานในการประชุมแทน” นายสิระกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างแถลงข่าวตำรวจที่อ้างว่ามีคลิปเสียงสนทนาระหว่างผกก.กับพนักงานสอบสวนได้โทรศัพท์เข้ามาหานายสิระ ก่อนที่นายสิระจะเปิดลำโพงโทรศัพท์ให้สื่อมวลชนฟัง โดยตำรวจคนดังกล่าวระบุว่า”ขอยังไม่ให้คลิปเสียงดังกล่าว เนื่องจากรู้สึกกลัว ต้องการให้ผกก.ย้ายก่อน จึงจะเปิดเผยคลิปเสียงได้”ก่อนจะวางสายไป
ด้านนายเอ (นามสมมติ) พยานคนสนิทร.ต.อ.ทวี เปิดเผยว่า ประกอบอาชีพนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์ เมื่อปี2558 ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ทุ่งสองห้อง ตั้งด่านตรวจอยู่บริเวณถนนงามวงศ์วาน ตรงข้ามเรือนจำคลองเปรม เรียกตรวจ และมีปากเสียงกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ครั้งนั้นร.ต.อ.ทวีเป็นผู้ไกล่เกลี่ยให้ จนมีความสนิทสนมกันมานานกว่า 1 ปีแล้ว ทุกๆเดือนจะต้องนัดเจอกัน โดยร.ต.อ.ทวี เป็นคนร่าเริง เฮฮา จนวันที่ 28 มกราคม ร.ต.อ.ทวี โทรศัพท์มาหาตน 2ครั้ง แต่ไม่ได้รับ จึงโทรกลับในเวลา 17.57 น. ร.ต.อ.ทวี รับสายพร้อมกับตัดพ้อว่าไม่ไหวแล้วไม่สามารถทำงานในคดียึดรถ 204 คันได้ และยังถูกกดดันให้ทำผิดกฎหมาย ด้วยการให้คืนรถทั้งหมดให้กับทางไฟแนนซ์ แต่ร.ต.อ.ทวีไม่สามารถทำตามคำสั่งได้ เพราะรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง ร.ต.อ.ทวียัง บอกด้วยว่า “นาย…สั่งให้ทำผิดกฎหมาย เรียกไปต่อว่ากลางที่ประชุม อย่างกับหมูกับหมา ผมจะลาออกหากลาออกไม่ได้ก็จะฆ่าตัวตาย” โดยการพูดคุยทั้งหมดเป็นเวลากว่า 3 นาที จึงได้ปลอบใจเนื่องจากไม่อยากให้ร.ต.อ.ทวี คิดสั้น เพราะยังมีภรรยาและบุตรที่ต้องดูแล ทั้งนี้ร.ต.อ.ทวี ได้นัดตนรับประทานอาหารในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ แต่เกิดเหตุเสียก่อน ที่มาในวันนี้อยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับร.ต.อ.ทวี เท่านั้น
ด้ายนายสุเวช จิตมหาวงศ์ อัยการอาวุโสและอดีตประธานคณะอนุกรรมการ กต.ตร. บก.น.2 กล่าวว่า มีความคุ้นเคยกับสน.ทุ่งสองห้องเป็นอย่างดีเนื่องจากเป็นที่ปรึกษาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ทุ่งสองห้องกว่า 20 ปี มีความสนิทสนมกับ ร.ต.อ.ทวี จึงทราบข่าวว่าร.ต.อ.ทวี มีความเครียดในการทำคดีจำนำรถจำนวน 204 คัน เมื่อวันที่ 28 มกราคม ได้โทรศัพท์ไปหาร.ต.อ.ทวี เพื่อนัดมารับประทานอาหาร แต่ร.ต.อ.ทวี ไม่สะดวกจึงเพียงพูดให้กำลังใจทางโทรศัพท์ และมาเกิดเหตุวันที่29มกราคม ยอมรับว่าคดีจำนำรถ204 คัน มี2เต๊นท์รถที่ถูกยึด คือ เต๊นท์เสี่ยเม้งและแชมป์ ตนมีหุ้นส่วนอยู่ในเต๊นท์แชมป์ไม่กี่หุ้น ภายหลังมีคดีความ พบว่ามีรถบางส่วนถูกกฎหมายและศาลตัดสินให้คืนรถให้กับเจ้าของ เพื่อซ่อมแซม โดยทางร.ต.อ.ทวีเห็นว่าเป็นรถที่ถูกต้องตามกฎหมาย สามารถคืนให้เจ้าของได้ แต่กลับมีผู้บังคับบัญชาบังคับให้คืนรถให้ไฟแนนซ์แทน ทำให้ร.ต.อ.ทวี เครียด ที่จะต้องทำผิดกฎหมาย ส่วนที่ผกก.ให้สัมภาษณ์ว่าร.ต.อ.ทวีกดดันเรื่องที่ทางตนและเจ้าของรถขอรถคืนนั้น ตนขอท้าให้วันที่ 6 กุมภาพันธ์เป็นวันจัดงานศพของร.ต.อ.ทวี ให้ผกก.มางานศพด้วย และมาดูกันว่าชาวบ้านและครอบครัวรู้สึกโกรธเคืองตนหรือผกก.มากกว่ากัน