หนัก!เอาผิด 13 โจ๋ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-ก่อเหตุรุมตบเด็ก 14 ปี บังคับถอดเสื้อผ้า ถ่ายคลิป

เอาผิดกลุ่มวัยรุ่น 13 คน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ- ทำร้ายร่างกาย รุมตบเด็ก 14 ปี บังคับถอดเสื้อผ้า ถ่ายคลิปประจาน

เมื่อวันที่ 17 เมษายน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีโลกออนไลน์แห่แชร์คลิปของเด็กหญิงคนหนึ่ง ถูกกลุ่มผู้ชายหลอกไปให้เพื่อนสาวตบทำร้ายร่างกาย โดยขังไว้บนห้อง อีกทั้งยังบังคับให้ถอดเสื้ออีกด้วย นั้น ได้รับรายงานจาก สภ.เมืองสมุทรสาคร ว่า ขณะนี้ผู้เสียหาย อายุประมาณ 14 ปี ได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนแล้ว

โดยจากการสอบปากคำเบื้องต้นทราบว่า เมื่อวันที่ 14 เมษายน เวลาประมาณ 04.30 น. ผู้ก่อเหตุรายหนึ่ง ได้เดินทางมายังที่พักของผู้เสียหาย และชักชวนผู้เสียหายให้มาคุยกันในเรื่องปัญหาส่วนตัว

จากนั้นได้พาผู้เสียหายไปยัง บริเวณลานจอดรถยนต์ของ เฉลิมชัยแมนชั่น ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยมีเพื่อนของผู้ก่อเหตุอยู่บริเวณดังกล่าวประมาณ 13 คน จากนั้นได้มีการพูดคุย และมีผู้ก่อเหตุจำนวน 2 ราย

ทราบภายหลังว่าเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 19 ปี และ15ปี เป็นผู้ทำร้ายร่างกายผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ และแยกย้ายเดินทางกลับบ้านไป ต่อมาเวลาประมาณ 13.30 น.ของวันเดียวกัน ผู้ก่อเหตุพร้อมเพื่อน ได้นัดผู้เสียหายมาเจออีกเพื่อเคลียร์ปัญหาส่วนตัว ที่บริเวณห้องพักของผู้ก่อเหตุซึ่งอยู่ในเฉลิมชัยแมนชั่น และผู้ก่อเหตุทั้งสองได้มีการทำร้ายร่างกายอีกครั้ง

Advertisement

ขณะนี้ พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำยายของผู้เสียหายไว้ในเบื้องต้น ในส่วนผู้เสียหายได้นำไปสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพที่สำนักงานอัยการจังหวัดสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างติดตาม จับกุมผู้กระทำผิดมารับโทษ ซึ่งจะถูกดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น ตาม ม.295 ประกอบ ม.83 และผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เนื่องจากมีการชุมนุม การทำกิจกรรม มั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม จึงขอฝากไปยัง สถาบันการศึกษา ผู้ปกครอง และประชาชน ให้มีการแนะนำเด็ก หรือบุตรหลานของท่าน ถึงพฤติกรรมต่างๆ ว่าพฤติกรรมใดเหมาะสม หรือไม่เหมาะสม พฤติกรรมใดควรเอาเป็นแบบอย่าง หรือไม่ควรเอาเป็นแบบอย่าง เพื่อให้เด็ก หรือประชาชน ทราบถึงพฤติกรรมดังกล่าว และผลลัพธ์ที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็นในทางที่ดี หรืออาจนำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน ซึ่งการกระทำที่คึกคะนองดังกล่าวอาจจะเป็นเหตุให้ถูกดำเนินคดีได้

อีกทั้งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หากพบว่ามีการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 – 04.00 น. หรือมีการชุมนุม การทำกิจกรรม มั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค หรือการกระทำอันเป็นการฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน หรือกลั่นแกล้งแพร่เชื้อโรค ณ ที่ใดๆ ต้องรับโทษ จำคุกไม่เกิน 2ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image