รมว.ยุติธรรม จี้ผบ.เรือนจำทำเตียง 2 ชั้น ให้นักโทษ ต้องคำนวณดีๆ ต้องใหญ่กว่าโลงศพ สั่งเข้มงวดการกักโรค แนะศึกษาการเก็บสารคัดหลั่งให้นิติวิทยาศาสตร์ ตรวจโควิด-19 พร้อมกำชับทำประวัติใส่ใจผู้ต้องขังก่อนปล่อยพักโทษ
เมื่อวันที่ 18 เมษายน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า การประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ กับผู้บัญชาการเรือนจำ 141 แห่ง ทั่วประเทศ ที่ผ่านมา ตนได้กำชับทุกเรือนจำห้ามประมาท สอดส่อง คัดกรองให้ละเอียด ดูแลอย่าให้เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 เข้าสู่เรือนจำ เพราะจะได้รับผลกระทบในวงกว้างทันที เวลานี้ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้ทำแลป เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อองค์กร ที่สามารถตรวจบุคคลภายนอก และบุคลากรของกระทรวงยุติธรรมได้ ดังนั้นผู้บัญชาการทุกเรือนจำต้องหาทางศึกษาการเก็บสารคัดหลั่งให้เป็น เพื่อนำส่งมาให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจหาเชื้อให้ เพื่อความรวดเร็วและป้องกันไม่ให้เชื้อลุกลามต่อไป
“เวลานี้เราสามารถสร้างภูมิคุ้มกันในเรือนจำได้ดี รายการ เรื่องเล่าชาวเรือนจำ ทำให้ผู้ต้องขังเกิดความเข้าใจในสถานการณ์ต่างๆ จนไม่มีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นอีก สังคมก็ชื่นชมเพราะเห็นว่าเราพยายาม เวลาทำงานสำเร็จเราก็สำเร็จด้วยกัน ขอให้ทุกคนทำงานหนักเฝ้าระวังให้ละเอียดห้ามการ์ดตก” รมว.ยุติธรรม กล่าว
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงการปล่อยตัวนักโทษของกรมราชทัณฑ์ ว่า ต้องมีการคัดกรองให้ดี ต้องรู้ว่าแต่ละคนเป็นนักโทษที่มีพฤติกรรมอย่างไร มิใช่ปล่อยออกมาแล้วก่อเหตุซ้ำ ต้องใส่ใจนักโทษ เพราะในเดือนสิงหาคม – กันยายน เราจะมีกำไลอิเล็กทรอนิกส์ หรือกำไลอีเอ็ม ก็จะมีการพิจารณาพักโทษเพิ่ม
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามการใส่ใจที่ระบุต้องรวมถึงงบประมาณที่กระจายสู่เรือนจำกว่า 190 ล้านบาท ที่ทำห้องกักโรค รวมถึงทำเตียง 2 ชั้นที่บางเรือนจำเริ่มลงมือทำแล้ว ต้องวางแผนคำนวณตารางเมตรให้ดี ที่นอนผู้ต้องขังต่อคนนั้นประมาณ 1.2 ตารางเมตร มิใช่ทำแล้วที่นอนเล็กกว่าโลงศพ อากาศต้องถ่ายเท ถูกสุขลักษณะเป็นสำคัญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการประชุมนายสมศักดิ์ได้สอบถามเรื่องพื้นที่การนอนของผู้ต้องขังแต่ละคนใช่พื้นที่เท่าไหร่ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ตอบว่า 0.65 ตารางเมตร นายสมศักดิ์. เลยถามกลับไปว่า “แล้วมันนอนได้ไหม” ถ้าจุด 0.65 ก็คือ 65 %ของโลงศพ แล้วจะนอนได้ยังไงเราต้องใส่ได้ทำยัง