ราชทัณฑ์โอนเงินให้เรือนจำ ซื้อเวชภัณฑ์ ทำห้องกักโรค สร้างที่นอน ลดแออัด

ราชทัณฑ์โอนเงินให้เรือนจำ ซื้อเวชภัณฑ์ ทำห้องกักโรค สร้างที่นอน ลดแออัด

กรมราชทัณฑ์โอนเงินให้เรือนจำทั่วประเทศ เกือบ 200 ล้านบาท จัดซื้อเวชภัณฑ์ สร้างห้องกักโรค ป้องกันภัยโควิด 19 สร้างพื้นที่นอนเพิ่ม ลดความแออัด

กรมราชทัณฑ์ / เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ต.อ. ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการตามมาตรการด้านงบประมาณเพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 และเพิ่มพื้นที่ลดความแออัดของผู้ต้องขัง

โดยได้โอนเงิน 193.52 ล้านบาท เพื่อใช้จ่ายใน 3 กรณี

คือ 1.สำหรับจัดซื้อวัสดุเวชภัณฑ์ทางการแพทย์/งานบ้านงานครัว ป้องกันการ แพร่เชื้อโรค วงเงิน 56.6 ล้านบาท ซึ่งเบิกจ่ายไปแล้ว 29 ล้านบาท  2.จัดซื้อวัสดุทำห้องกักโรค/เพิ่มพื้นที่นอน วงเงิน 56.3 ล้านบาท  โดยเป้าหมายให้ได้ทั้งหมด 1,259 ห้อง รองรับผู้ต้องขังจำนวน 24,558 คน

ซึ่งปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จจำนวน 730 ห้อง  และ 3 .จัดซื้อวัสดุทำที่นอน 2 ชั้น วงเงิน 80.6 ล้านบาท โดยเป้าหมาย ให้ได้ทั้งหมด 1,087 ห้อง รองรับผู้ต้องขังจำนวน 24,217 คน ปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน  923 ห้อง (ข้อมูล ณ วันที่ 20 เมษายน 2563)

Advertisement

พ.ต.อ. ณรัชต์ ยังกล่าวว่า  จากเดิมเรือนจำทั่วประเทศมีพื้นที่เรือนนอนรองรับผู้ต้องขังได้ 220,000 คน แต่หากดำเนินการสร้างห้องกักโรคและที่นอนสองชั้นแล้วเสร็จตามเป้าหมาย จะมีพื้นที่นอนเพิ่มขึ้น 58,529 ตารางเมตร สามารถรองรับผู้ต้องขัง 48,775 คน

รวมมีพื้นที่รองรับผู้ต้องขังได้จำนวน 268,775 คน  ซึ่ง ปัจจุบันมีจำนวนผู้ต้องขังทั่วประเทศ 380,000 คน วงเงินที่เบิกจ่ายไปแล้วจำนวน 57.9 ล้านบาท ยังคงเหลือเงินที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 135.6 ล้านบาท

สำหรับสถานการณ์วันนี้ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม ยอดเดิมผู้ต้องขังติดเชื้อ 2 ราย(หายแล้ว) และมีเจ้าหน้าที่ติดเชื้อ 3 ราย (อยู่ระหว่างการรักษาตัว) ทั้งนี้กรมราชทัณฑ์ จะได้ติดตามสถานการณ์การเจ็บป่วยของผู้ต้องขังในทุกเรือนจำอย่างใกล้ชิดทุกวัน เพื่อจำกัดจำนวนผู้ต้องขังที่อยู่   ในภาวะเสี่ยงและติดโรคระบาดนี้ให้น้อยที่สุด ได้ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขและกรมควบคุมโรค รวมทั้งสาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลแม่ข่ายต่างๆ อย่างใกล้ชิด

Advertisement

 

สถานการณ์ไวรัส โควิด ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม ยอดเดิมผู้ต้องขังติดเชื้อ 2 ราย (หายแล้ว) และมีเจ้าหน้าที่ติดเชื้อ 3 ราย (อยู่ระหว่างการรักษาตัว)
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image