ทลายแหล่งค้าแรงงานพม่าภูเก็ต “โกแป๊ะ”ตัวการชิ่งทัน ขยายผลเจ้าของเรือจ่อยึดทรัพย์

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บังคับการกองปราบปรามความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์(ผบก.ปคม.) พล.ร.ต.เกรียงไกร อนันตศานต์ ผอ.สกศ.ยก.ทร. นายตุน อ่วย เลขานุการโท ฝ่ายกงสุล สอท.เมียนมา ร่วมกันแถลงข่าวช่วยเหลือแรงงานชาวเมียนมา ถูกกักขังและบังคับใช้แรงงานประมง จ.ภูเก็ต

พล.ต.ต.กรไชย เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ปคม. เมียนมา ได้แจ้งข้อมูลว่ามีแรงงานเมียนมา 4 คน ถูกบังคับใช้แรงงานบนเรือประมง และเรือจะกลับเข้าฝั่งที่ จ.ภูเก็ต แต่ไม่ทราบวันเวลาและสถานที่ จนสืบทราบว่า เมื่อวันที่ 27 มกราคม แรงงานเมียนมา ได้แอบหลบหนีออกจากเรือประมงมาได้ขณะเรือเข้าเทียบท่าที่ จว.ภูเก็ต และได้หลบซ่อนตัวอยู่ จึงได้เข้าช่วยเหลือ จากการสอบถามขยายผลทราบว่า ยังมีชาวเมียนมาอีกหลายคนรวมถึงแรงงานเมียนมา 3 คนที่ร้องขอความช่วยเหลือไปด้วยถูกกักขังอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง จึงวางแผนสนธิกำลังเข้าตรวจค้นสถานที่เป็นห้องไม่มีเลขที่ บริเวณเกาะสิเหร่ ถ.เทพประทาน ต.รัษฎา อ.เมือง จว.ภูเก็ต ประตูทางเข้าใส่กุญแจล็อคจากด้านนอก ภายในห้องพบห้องกักขังขนาดประมาณ 4-6 เมตร ซึ่งถูกปิดล็อคจากด้านนอกด้วยกลอนไม้ 2 ชั้น ภายในพบแรงงานชาวเมียนมา 29 คน ถูกกักขังอยู่ ไม่มีช่องทางหลบหนีออกทางอื่นได้ ขณะตรวจค้นพบ นางมะโย ชาวเมียนมา เป็นผู้เฝ้าสถานที่กักขังดังกล่าว จากการนำแรงงานเมียนมาทั้ง 30 คน มาคัดแยกผู้เสียหายร่วมกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พบว่าเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ทั้ง 30 คน พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปคม. จึงได้ดำเนินการจับกุมนางมะโย สัญชาติเมียนมา อายุ 38ปีและแจ้งข้อกล่าวหา และขยายจับกุมนายโซโม หรือ วตุ สัญชาติเมียนมา อายุ 32 ปี ได้ที่ สภ.เมืองภูเก็ต เมื่อวันที่ 31 มกราคมตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ และ นายโซ วิน อุง โซ หรือโกแป๊ะ หรือ อะเปด สัญชาติเมียนมา อายุ 37 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ ขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนี

พล.ต.ต.กรไชย กล่าวอีกว่า ผู้เสียหายในคดีนี้ได้ถูกชักชวนโดยนายหน้าชาวเมียนมาจากประเทศเมียนมาให้มาทำงานในประเทศไทย โดยลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา จากนั้นมีนายหน้าฝั่งไทยมารับและเดินทางต่ไปยัง จว.ภูเก็ต เมื่อมาถึงภูเก็ตจะพามาส่งให้กับโกแป๊ะ โดยเมื่อรับตัวไว้แล้วก็จะพาไปทำบัตรประจำตัวบุคคลซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพูประเภทประมง) โดยโกแป๊ะ เป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย ค่าเดินทางที่จ่ายให้กับนายหน้าและค่าทำบัตรทั้งหมด รวมประมาณ 20,000 – 35,000 บาทต่อคน จากนั้นจะพาเข้าไปกักขังในสถานที่กักขังดังกล่าวข้างต้นระหว่างรอบัตรชมพู โดยมีนางมะโย และโกแป๊ะเฝ้าอยู่ด้านนอกตลอดเวลา และทำอาหารส่งเข้าไปให้ทานภายในห้องกักขัง เมื่อแรงงานได้รับบัตรชมพูแล้วก็จะถูกส่งไปทำงานในเรือประมง โดยมี นายโซโม ผู้ต้องหา ทำหน้าที่เป็นคนขับรถนำพาจากห้องกักขังไปส่งที่ท่าเรือเพื่อลงเรือประมง โกแป๊ะ จะเป็นผู้จัดการเรื่องการลงไปทำงานในเรือประมงทั้งหมด การทำงานในเรือประมงครั้งหนี่งประมาณ 7 วัน ระหว่างอยู่บนเรือจะถูกบังคับใช้แรงงาน บางรายถูกทำร้ายร่างกาย เมื่อเรือกลับเข้าฝั่งแล้วก็จะถูกส่งกลับไปกักขังที่สถานที่กักขังดังกล่าวเพื่อรอลงเรือรอบต่อไป สำหรับค่าจ้างแรงงาน โกแป๊ะฯ จะเป็นผู้รับแทนเพื่อหักเป็นค่าเดินทาง ค่าทำบัตร ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายอื่นๆในชั้นสอบสวน นางมะโย และนายโซโม หรือ วตุ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ คดีนี้นับเป็นการประสานความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและเมียนมาที่มีความมุ่งมั่นต่อการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานบังคับในภาคประมง นอกจากนี้แล้วยังเป็นการแสดงเจตน์จำนงค์ที่แท้จริงในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ซึ่งรัฐบาลไทยถือเป็นวาระแห่งชาติ ปัญหาการค้ามนุษย์ต้องได้รับความร่วมมือจากประเทศที่เกี่ยวข้องเนื่องจากเกี่ยวพันกับหลายเส้นทาง ขณะที่ประเทศไทยเป็นเพียงประเทศทางผ่าน ปัญหาการค้ามนุษย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวโรฮินจา ในเฉพาะพื้นที่เฝ้าระวังใน ภ.จว. 8, 9 และ ศชต. รวม 22 จังหวัด โดยให้หน่วยงานที่รับผิดชอบร่วมกันในการแก้ไขปัญหาในทุกมิติ ช่วงปีที่ผ่านมา ตร.สามารถจับกุมและทลายเครือข่ายค้ามนุษย์รายสำคัญๆ ได้ มีการจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวนมาก มีการยึดทรัพย์ และ มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ

พ.ต.อ.กรไชย อีกกล่าวว่า คดีดังกล่าวอยู่ในระหว่างการสืบสวนขยายผลไปยังกลุ่มเรือประมงที่มีการใช้แรงงานกลุ่มแรงงานดังกล่าว เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของเรือ และกลุ่มเรือที่เกี่ยวข้องต่อไป พร้อมยึดทรัพย์สินบางส่วน เนื่องจากการกระทำความผิดเข้าข่ายกฎหมายการฟอกเงินของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image