‘อัจฉริยะ’ พาเหยื่อ ตร.คลองด่านอีก 9 ร้อง ‘ผบ.ตร.’ ถูกอุ้มรีดเงิน ขอให้เด้งกราวรูด
เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้นำผู้เสียหาย 9 ราย เข้าร้องเรียนกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เพื่อให้ดำเนินคดีเพิ่มเติมกับตำรวจ สภ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ รวม 8 นาย และพลเรือน อีกจำนวนหนึ่ง ในข้อหาร่วมกันข่มขืนใจ กักขังหน่วงเหนี่ยว และร่วมกันกรรโชกทรัพย์และขอให้มีคำสั่งย้าย ผกก.-รอง ผกก.-สารวัตรสืบสวน สภ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ ที่ปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ใช้สถานที่ภายในโรงพักเพื่อกระทำผิดโดยมี พ.ต.อ.ดุสกร ยุวนากร รองผู้บังคับการกองวินัย ซึ่งเป็นเวร อำนวยการ เป็นผู้รับเรื่องไว้เสนอผู้เกี่ยวข้อง
นายอัจฉริยะเปิดเผยว่า ลูกของผู้เสียหาย 3 คน อายุ 9-14 ปี เล่าว่า เมื่อประมาณกลางปี 2562 ขณะพ่อกับแม่พานั่งรถไปกินข้าว แต่กลับมีชายฉกรรจ์อ้างตัวว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 7-8 นาย เข้ามาจับพ่อกับแม่พร้อมใส่กุญแจ ตรงปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ สภ.คลองด่าน ก่อนนำตัวไปและทำร้ายร่างกายที่สนามฟุตบอลแห่งหนึ่ง จากนั้นกลุ่มที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ได้นำพ่อกับแม่ไปรีสอร์ตแห่งหนึ่ง โดยนำถุงดำมาคลุมหัวไว้แล้วซ้อมทำร้ายร่างกาย จนกระทั่งพ่อกับแม่ยินยอมจ่ายเงิน เป็นจำนวน 50,000 บาท เพื่อแลกกับอิสรภาพ และรถยนต์ 1 คัน ให้กับกลุ่มตำรวจ เพื่อแลกกับการปล่อยตัว โดยหลังจากกลุ่มตำรวจได้รับเงินแล้ว ได้นำทั้งครอบครัวมาปล่อยทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในย่านบางนา
ขณะที่ผู้เสียหายอีกคดี เป็นพ่อค้าขายลูกปลากะพง ในพื้นที่อำบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา โดยเหตุเกิดมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 นาย กล่าวหาว่าจำหน่ายยาบ้า จำนวน 700-800 เม็ด ขณะนั่งดื่มสังสรรค์ภายในบ้านพักของนายหมึง ซึ่งเป็นเพื่อนที่ตำรวจ อ้างว่า ค้นพบยาเสพติดภายในบ้านหลังนี้ ก่อนจะนำตัวเสียหายทั้งกลุ่มมาสอบปากคำที่ สภ.คลองด่าน พร้อมกับบังคับให้เซ็นเอกสาร และเจรจาให้นำเงินสดจำนวน 200,000 บาท มาแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี ด้วยความกลัวกลุ่มผู้เสียหายจึงยินยอมและติดต่อให้เพื่อนนำเงินสดมาให้ เมื่อได้รับเงินตามที่เจรจากลุ่มตำรวจจึงปล่อยตัวไป
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ได้รับเรื่องราวร้องทุกข์กล่าวโทษไว้แล้ว โดยจะเร่งรัดดำเนินการตามขั้นตอนระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ร้องและผู้เสียหาย ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานทางคดีต่างๆ รวมทั้งสอบปากคำผู้เสียหายและพยาน เพื่อคลี่คลายข้อสงสัยและให้ความกระจ่างแก่สังคม
พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เร่งดำเนินการ สืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน ในการ พิสูจน์ข้อเท็จจริงและคลี่คลายข้อสงสัยที่เกิดขึ้น ด้วยความรวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรม หากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้การกระทำความผิดตามที่กล่าวหาจริง จะดำเนินการทั้งทางอาญาและวินัยอย่างเด็ดขาด ประกอบกับให้พิจารณาตั้งกรรมการกับผู้บังคับบัญชา ตามลำดับชั้น ตามนัยคำสั่ง 1212/2537 กรณีปล่อยปละละเลยไม่กวดขันความประพฤติและวินัยของผู้ใต้บังคับบัญชาจนเกิดข้อบกพร่อง เสียหาย เพื่อที่จะไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างและเสียกำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดี
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการลงทัณฑ์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่กระทำในลักษณะนี้ ทั้ง ไล่ออก ปลดออก หรือให้ออก หากความผิดปรากฏชัดเจน ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศมาโดยตลอด