จากกรณี ร.ต.อ.ชาญชาย เย็นสุข รอง สว.จร.สน.นิมิตรใหม่ อายุ 39 ปี แจ้งความดำเนินคดีกับ ร.ต.อ.ชนินท์ธัช รัตน์ชิโนตรัย รอง สวป.สน.บางรัก อายุ 38 ปี เพื่อนสมัยเรียนสิบตำรวจด้วยกัน โดยกล่าวหาว่า ร.ต.อ.ชนินท์ธัช อ้างว่า รู้จักผู้ใหญ่สามารถวิ่งเต้นให้ร.ต.อ.ชาญชาย เลื่อนตำแหน่งเป็นสารวัตรได้ โดยแลกกับเงินสดจำนวน 700,000 บาท โดยนัดส่งมอบเงินที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.แห่งหนึ่ง ริมถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนที่ร.ต.อ.ชนินท์ธัชจะเข้าให้ปากคำอ้างว่าเป็นการหลอกเพื่อเอาเงินมาใช้เท่านั้น ขณะที่ ร.ต.อ.ชาญชาย ยังไม่เข้าพบพนักงานสอบสวน โดยระบุว่าติดธุระ พนักงานสอบสวนจึงออกหมายเรียกให้เข้าปากคำเป็นครั้งที่ 2
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 กรกฎาคม ที่สน.บางซื่อ พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2พ.ต.อ.เศกสิทธิ์ สุภาอ้วน ผกก.สน.บางซื่อ พ.ต.ท.สมาน ครองสิน รองผกก.(สอบสวน) หัวหน้าพนักงานสอบสวน และพ.ต.ท.หญิง ชุติมา ศิริเมธาวี รองผกก.(สอบสวน) เจ้าของคดีและเจ้าหน้าที่ร่วมประชุม
โดยพล.ต.ต.เจริญกล่าวว่า วันนี้ร.ต.อ.ชาญชายไม่ได้เดินทางมาให้ปากคำ จากเดิมที่นัดร.ต.อ.ชาญชัย และภรรยา มาให้ปากคำเพิ่มเติมในวันนี้ เนื่องจากร.ต.อ.ชาญชัยและภรรยาเดินทางมาให้ปากคำเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ได้สอบสวนเพียงเล็กน้อยก่อนจะรีบเดินทางกลับ โดยไม่ได้รับเงินของกลาง 700,000 บาทไปแต่อย่างใด ทางพนักงานสอบสวนไม่ได้รายงานผู้บังคับบัญชาทำให้ไม่ทราบเรื่อง ทั้งนี้ผู้เสียหายทั้ง2ให้การว่า ทางร.ต.อ.ชนินท์ธัช หลอกทำทีขอยืมเงินแล้วบ่ายเบี่ยงไม่ยอมคืน จึงต้องมาแจ้งความ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการซื้อขายตำแหน่ง ดังนั้นจึงต้องเรียกร.ต.อ.ชาญชายและร.ต.อ.ชนินท์ธัชมาให้ปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง ทางพนักงานสอบสวนจะติดต่อไป โดยให้มาพบในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้
พล.ต.ต.เจริญ กล่าวต่อว่า ภรรยาของร.ต.อ.ชาญชาย ที่เป็นเจ้าของเงินและเป็นผู้เอาเงินไปให้ร.ต.อ.ชนินท์ธัช พนักงานสอบสวนได้เรียกมาให้แจ้งความในข้อกล่าวหาฉ้อโกงแก่ร.ต.อ.ชนินท์ธัชแล้ว และจะแจ้งให้ร.ต.อ.ชนินท์ธัช มารับทราบ อย่างไรก็ตามคดีฉ้อโกงนี้สามารถยอมความกันได้ หากสอบปากคำในวันที่22กรกฎาคม แล้วทั้งสองฝ่ายตกลงยอมความกันได้ คดีจะยุติ ตนเร่งรัดให้พนักงานสอบสวนติดต่อร.ต.อ.ทั้งสองมาให้ปากคำโดยเร็วที่สุด
