เรียก ตร. 3 นายสอบข้อเท็จจริง หลังถูกชาวบ้านล้อมอ้างเรียกเงิน 5 ล้าน

เรียก ตร. 3 นาย ถูกชาวบ้านล้อมอ้างเรียก 5 ล้าน ไปประจำ ศปก.ภาค 8 สอบข้อเท็จจริง 

ความคืบหน้าชาวบ้านพื้นที่ ชุมชนบ้านสำโรง หมู่ 4 ต.ท่าทองใหม่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานีกว่า 200 คน ฮือล้อมรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กจ 792 สุราษฎร์ธานี ที่มีชาย 3 คันอ้างเป็นตำรวจจับกุมนายอรุชา บินมูซา อายุ 46 ปี ชาว ต.ท่าทองใหม่

พ่อค้ารับซื้อลูกหอยแครงจากชาวประมงพื้นบ้าน โดยอ้างว่ามีการเรียกเงิน 5 ล้านบาทแลกไม่ดำเนินคดี ซึ่งนายอรุชา จะแจ้งความดำเนินคดีข้อหาข่มขู่กรรโชกทรัพย์ พร้อมเรียกร้องให้ตำรวจภูธรภาค 8 ย้ายบุคคลทั้ง 3 ออกจากพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ภายใน 24 ชั่วโมง และกลุ่มชาวบ้านให้ข้อมูลกับนายอำเภอกาญจนดิษฐ์ว่า

ทั้ง 3 คน มีพฤติกรรมกรรโชกทรัพย์และรีดไถเงินชาวประมงพื้นบ้านมานานแล้ว ซึ่งมีการเจรจายอมให้นำตัวชายทั้ง 3 คนไปที่ สภ.กาญจนดิษฐ์ นั้น

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ต.อ.ทักษิณ ศิริโภคพัฒน์ ผกก.สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า หลังจากนำชายทั้ง 3 คนเดินทางมาที่ สภ.กาญจนดิษฐ์ ตรวจสอบพบว่าเป็นตำรวจจริง สังกัดกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 โดยอ้างว่า เข้าไปจับกุมการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการประมง

Advertisement

แต่ถูกชาวบ้านล้อมรถ ซึ่งยังไม่มีชาวบ้านผู้เสียหายมาแจ้งความจึงต้องปล่อยตัวตำรวจทั้ง 3 นายไปก่อน พร้อมจะทำหนังสือรายงานไปยังผู้บังคับการการตำรวจภูธร จ.สุราษฎร์ธานี และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ตามลำดับชั้นต่อไป

พล.ต.ต.ภิญโญ หวลกสินธุ์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวว่า ได้รับทราบเหตุการณ์จากตำรวจท้องที่โดยจะเรียกตัวตำรวจทั้ง 3 นายมาสอบถามข้อเท็จจริง เบื้องต้นทราบว่าทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 จะมีคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 3 นายให้ไปประจำที่ศูนย์ปฎิบัติการตำรวจภูธรภาค 8 (ศปก.ภาค 8)ที่ จ.ภูเก็ตและให้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจิรง ส่วนความผิดทางอาญาใช้อาวุธปืนจ่อกรรโชกทรัพย์ทราบว่ายังไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความ ดำเนินคดี

Advertisement

ด้านนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ในพื้นที่เขตอนุรักษ์ 1,000 เมตรจากแนวชายฝั่งเป็นพื้นที่ที่ทางจังหวัดสงวนไว้สำหรับทำการประมงพื้นบ้านให้ทำการประมงแบบธรรมชาติพื้นบ้าน คือ งมด้วยมือหรือตะแกรงได้ โดยห้ามใช้เครื่องมือคราดหอยแครง ตามประกาศของคณะกรรมการประมงจังหวัดเมื่อปี 2560 ซึ่งปัจจุบันมีพื้นที่อนุญาตให้เลี้ยงหอยได้ในพื้นที่บางอำเภอได้แก่ อ.ไชยา , ท่าฉาง , กาญจนดิษฐ์ ,ดอนสัก และอ.เกาะสมุย ส่วนพื้นที่ไม่มีการอนุญาตให้เลี้ยงหอย ได้แก่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี และ อ.พุนพิน โดยการซื้อขายลูกหอยแครงที่ของประมงพื้นบ้านจับมาได้ย่อมกระทำได้ไม่เป็นการทำผิดกฎหมาย

รายงานข่าวชาวประมงพื้นบ้านแจ้งว่า เหตุการณ์ลุกฮือล้อมดังกล่าวเพราะทนไม่ได้ที่ถูกกดขี่เข้าไปงมจับหอยในเขตที่ทางจังหวัดอนุญาต แต่ต้องจ่ายค่าเงินเหมือนเป็นค่าคุ้มครองให้กลุ่มบุคคลในเขต อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ก่อนและเมื่อจับหอยมาได้แล้วนำมาขายให้พ่อค้ากลับมีคนของกลุ่มนี้มาจับกุมอ้างว่าทำประมงผิดกฎหมายอีกซึ่งเท่ากับเสียทั้งเงินเสียทั้งของและที่ผ่านมาไม่มีการจับกุมกลุ่มเรือคราดหอยของกลุ่มนายทุนที่ใช้เครื่องมือผิดกฎหมายได้ เพราะมีการส่งข่าวให้รู้ตัวแม้แต่การให้รื้อหลักไม้ไผ่ในเขตอนุรักษ์มีความพยายามยืดเยื้อถ่วงเวลาจนนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ต้องสั่งส่งกำลังลงพื้นที่ให้รื้อถอนด้วยตัวเอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image