นักธุรกิจสกุลดังแจ้งจับ ‘ดร.’ อ้างเบื้องสูงลวงขายตลาดยอดพิมาน สูญ15ล้าน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 กรกฎาคม ที่ สน.บางพลัด นายวันชัย แสงสุวรรณ ทนายความ พร้อมนายจักรพันธ์ ประจวบเหมาะ อายุ 33 ปี นักลงทุนตลาดหลักทรัพย์และนักธุรกิจเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.วรเดช ชมภูพันธ์ รอง ผกก.สส.สน.บางพลัด เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ ดร.ศิวพร (สงวนนามสกุล) ฐานแอบอ้างเบื้องสูง

โดยนายวันชัยกล่าวว่า เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับ ดร.ศิวพร (สงวนนามสกุล) และพวก รวม 6 คน ในข้อหาฉ้อโกง และในวันนี้จะมาแจ้งข้อหานางศิวพร ฐานแอบอ้างเบื้องสูง เพราะมีการแอบอ้างเบื้องสูงทำธุรกิจ เพื่อให้ได้เงินไป นายจักรพันธ์มีความสนใจในการลงทุนซื้อ-ขายตลาดยอดพิมานที่ปากคลองตลาด ก่อนหน้านี้นายทัตภณ (สงวนนามสกุล) เจ้าหน้าที่บริษัทประเมินที่มีลายเส้นของแบงก์ (เป็นลูกน้องเก่านางศิวพร) เป็นคนแนะนำให้นายจักรพันธ์รู้จักกับนางศิวพร อ้างว่ามีการลงทุนที่น่าสนใจ ต่อมาเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นายจักรพันธ์ติดต่อพูดคุยกับนางศิวพรและมีการตกลงธุรกิจกัน นางศิวพรพาไปคุยธุรกิจกันที่บ้านพักย่านบางพลัด ภายในห้องตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูราคาแพง และมีภาพของผู้ใหญ่หลายท่าน นางศิวพรอ้างว่ารู้จักเบื้องสูง ทางนายจักรพันธ์จึงหลงเชื่อ ระหว่างนั้นนางศิวพรได้นำเอกสารที่ดิน และกรรมสิทธิ์ครอบครองมาให้ดู และบอกกับนายจักรพันธ์ว่าจะได้ถือหุ้นทั้งหมด 40% นายจักรพันธ์จึงโอนเงินมัดจำไปก่อน 15,700,000 บาท โดยตลาดยอดพิมานมีมูลค่าถึง 1,000 ล้านบาท

นายวันชัยกล่าวต่อว่า ภายหลังนายเฉลียว ปรีกราน เจ้าของตลาดคนปัจจุบันทราบเรื่อง ยืนยันว่าไม่มีนโยบายขายหุ้น และไม่เคยดำเนินการเลย จนกระทั่งเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน นายจักรพันธ์พร้อมด้วยนายเฉลียวและบุคคลที่ถูก ดร.ศิวพรอ้างว่าเป็นญาติ เดินทางไปหา ดร.ศิวพร ปรากฏว่าไม่มีใครรู้จัก ดร.ศิวพร จากนั้นจึงคุยกันเรื่องชำระเงิน แต่ได้รับการปฏิเสธ ส่วนเงินที่ได้รับก่อนหน้านี้ ดร.ศิวพรรับว่าไม่ได้เอาไปซื้อหุ้น แต่ยืนยันว่าจะชดใช้ ล่าสุด ดร.ศิวพรให้เช็คมา แต่พอไปขึ้นเงินปรากฏว่าเช็คเด้ง

นายวันชัยกล่าวอีกว่า ดร.ศิวพรถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดีอาญาที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน 4 คดี ฐานร่วมกันฉ้อโกง ศาลพิพากษาไปแล้ว 2 คดี ส่วนอีก 2 คดีอยู่ระหว่างพิจารณา

Advertisement

ด้านนายจักรพันธ์กล่าวว่า ถือว่าเป็นการลงทุน อาจได้รับความเสี่ยงได้ แต่ที่ออกมาแจ้งความ เพราะไม่ต้องการให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับใครอีก

ต่อมา เวลา 12.00 น. นายเฉลียวพร้อมภรรยาและผู้ถือหุ้นใหญ่พร้อมฝ่ายกฎหมายเดินทางเข้าให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงการซื้อขายตลาดที่มีผู้แอบอ้างจนทำให้ชื่อเสียงของตนและตลาดเสียหาย

โดยนายเฉลียวกล่าวว่า ตนและภรรยาในฐานะที่เป็นเจ้าของตลาดและผู้ถือหุ้นใหญ่ของตลาดนั้น ขอยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเอาตลาดที่ตนเป็นเจ้าของไปขาย เนื่องจากตนและภรรยารวมทั้งผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ นั้นไม่เคยมีนโยบายในการขายตลาดยอดพิมานเลย เนื่องจากอยากจะเก็บไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่ ดร.ศิวพร หรือนายทัชชัยนำชื่อตนและชื่อตลาดไปอ้างขาย ก่อนหน้านี้นายทัชชัยนั้นเคยทำงานให้กับตนในฐานะทนายความก่อนจะออกไปเมื่อปี 2557 จึงอาจอาศัยว่าเคยทำงานกับตลาดไปแอบอ้างเพื่อฉ้อโกงนักลงทุนคนอื่นๆ ส่วนจะมีการแจ้งความร่วมด้วยหรือไม่นั้น ตนและภรรยาและผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ คงต้องขอศึกษาข้อมูลและปรึกษาฝ่ายกฎหมายก่อน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image