วันที่ 22 กรกฎาคม 2559 เมื่อเวลา 15.00 น. นายชัยทัต ณ นคร นักวิชาการแรงงาน ในฐานชุดปฎิบัติการตรวจสอบปราบปรามจับกุมแรงงานต่างด้าว กรมการจัดหางาน และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานจัดหางานจังหวัด ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขลางค์นคร อ.เมือง จ.ลำปาง เข้าตรวจสอบสถานที่ก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ของเทศบาลเมืองเขลางค์นคร ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในพื้นที่ 52 ไร่ ตั้งอยู่ริมถนนเลี่ยงเมืองลำปาง เขตชุมชนบ้านร้อง ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง เนื่องจากได้รับการร้องเรียนเข้าไปยังกรมการจัดหางานว่าสถานที่ก่อสร้างดังกล่าว ที่กำลังเร่งก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ของเทศบาลเมืองเขลางค์นคร มูลค่ากว่า 170 ล้านบาทอยู่นั้นมีแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาทำงานอยู่เป็นจำนวนมาก
หลังได้รับแจ้ง ทางเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการตรวจสอบปราบปรามจับกุมแรงงานต่างด้าว กรมการจัดหางาน จึงเดินทางมายัง จ.ลำปาง เพื่อประสานงานกับสำนักงานจัดหางานจังหวัด และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางเข้าไปตรวจสอบร่วมกัน ก็พบแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง กำลังทำงานก่อสร้างอยู่ในสถานที่ก่อสร้างดังกล่าวจริง เมื่อตรวจสอบมีทั้งหมด 14 คน เป็นหญิง 9 คน และชาย 5 คน โดยมาจากประเทศกัมพูชา ซึ่งไม่ได้รับใบอนุญาตให้เข้ามาทำงานในประเทศไทยและสถานที่ดังกล่าว
จากการสอบสวนทราบว่าแรงงานต่างด้าวทั้งหมดได้ลักลอบเข้าประเทศไทยตามแนวชายแดน จ.สระแก้ว และเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางมายัง จ.ลำปาง คนละ 5,000 บาท เพื่อมารับจ้างทำงานกับบริษัทเอกชนที่รับจ้างก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ โดยจะได้วันละ 300 บาท บางคนก็เดินทางมาทำงานได้เป็นเดือนแล้ว และบางคนก็เพิ่งมา โดยอายุน้อยที่สุด 20 ปี และอายุสูงสุด 60 ปี
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการตรวจสอบปราบปรามจับกุมแรงงานต่างด้าว กรมการจัดหางาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้นำตัวแรงงานต่างด้าวทั้งหมดมายัง สภ.เขลางค์นคร เพื่อส่งดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาเป็นคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีใบอนุญาต โดยทางเจ้าหน้าที่จะได้ผลักดันด้วยการส่งตัวแรงงานทั้งหมดกลับไปยังประเทศกัมพูชาต่อไป ส่วนบริษัทเอกชนที่รับจ้างก่อสร้างอาคารสำนักงานดังกล่าวนั้นและทำการว่าจ้างแรงงานต่างด้าวทั้งหมด ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา เป็นนายจ้างรับคนต่างด้าวเข้ามาทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต
