หนุ่มโวยคดีไม่คืบ ถูกนำชื่อเปิดบัญชีรับเงินยังชีพผู้สูงอายุ อบต.คลองหก
วันที่ 4 พฤษภาคม นายชัยรัตน์ หลงคะเจ้า อายุ 35 ปี ที่อยู่ 20/4 หมู่ 8 ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี อาชีพคนงานตัดหญ้า สนามกอล์ฟอันไพน์ นายปรเมศ รอดราชา อายุ 39 ปี พร้อมทนายกิตติพัชร์ ได้ร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวว่า ถูกนายชัด อู่เจริญ อายุ อายุ 39 ปี ที่อยู่ 29/2 หมู่ 12 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
นำบัตรประชาชนชองตนเองไปเปิดบัญชีรับเงินยังชีพผู้สูงของ อบต.คลองหก กับธนาคารกรุงไทย หลังทราบเรื่องจึงเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.กิตติศักดิ์ รักษกุลวิทยา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2563 จนถึงปัจจุบันนี้คดีไม่มีความคืบหน้าเลย โดยตั้งข้อสังเกตน่าจะทำกันเป็นกระบวนการฟอกเงิน
นายชัยรัตน์ หลงคะเจ้า กล่าวว่า นายชัด อู่เจริญ ซึ่งเป็นเพื่อนกับพี่ชายคือนายปรเมศ รอดราชา โดยนายชัด เปิดคาร์แคร์ เมื่อปี 2559 ซึ่งพี่ชายได้ให้ตนเองไปดูแลคาร์แคร์ให้ เมื่อทำมาได้สักระยะหนึ่งเขาได้ขอบัตรประชาชนของตนเองไปเพื่อจะนำไปเบิกเงินค่าลูกรังจาก อบต.คลองหก
ในระหว่างนั้นตนเองไม่รู้ก็ให้ไป ซึ่งตัวนายชัด เอง เขาทำงานอยู่ที่ อบต.คลองหกด้วย แต่เนื่องจากตนเองไม่รู้และไม่ได้คิดอะไรก็ให้เขาไปแล้วก็ทำงานที่คาร์แคร์ด้วยกันสักระยะหนึ่งก็มีปัญหากันในคาร์แคร์ ตนก็เลยขอลาออกต่อมาตนเองไปเจอกับนายชัดที่คลองหก เขาเปิดร้านจำหน่ายยาง
โดยนายชัด บอกว่าบัตร ATM ชำรุดให้ไปทำบัตร ATM ให้หน่อย ก็ถามเขาไปว่าบัตร ATM อะไรเขาบอกว่าไปเปิดไว้ เนื่องจากว่าเขาได้นำบัตรประชาชนของตนเองไปเปิดบัญชีไว้ก่อนแล้ว แต่บัตร ATM ยังไม่มี ก็ถามไปว่าแล้วจะไปเปิดอย่างไร เขาก็ให้สมุดบัญชีมาพอไปเปิดสมุดบัญชีอัพเงินดูเงินเข้าเป็นล้าน
เนื่องจากเงินเข้ามาเป็นล้านก็เลยไปตรวจสอบที่ธนาคารกรุงไทยสาขาคลองหก หมู่บ้านพรธิสาร จึงสอบถามเจ้าหน้าที่ธนาคารว่าใครเป็นคนมาเปิดบัญชีนี้เจ้าหน้าที่ธนาคารเขาตอบมาว่าเดี๋ยวรอสักครู่ขอเช็คก่อนพอกดคอมพิวเตอร์เช็คดูเขาบอกว่าคุณชัด อยู่เจริญ เป็นคนมาเปิดไว้
ตนเองก็ถามไปว่าเขามาเปิดได้อย่างไรตนเป็นเจ้าของบัญชี เงิน และนี่ก็ไม่ใช่ลายเซ็น ไม่เคยมีการมอบอำนาจแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าคุณชัด มาเปิดในเบี้ยยังชีพของ อบต.คลองหก ซึ่งมีเงินหมุนเวียนเข้ามาเป็นล้านใครจะรับผิดชอบ
ตนเองก็บอกไปว่าให้ไปคุยกันที่โรงพัก ซึ่งนายชัด ก็โทรเข้าหาตนเองตลอด แต่ตนเองไม่ยอมรับสาย หลังจากนั้นตนก็เอาสมุดบัญชีเล่มนั้นไปทำลายโดยธนาคารกรุงไทยสาขาวัดพระธรรมกายเป็นผู้ทำลาย แต่เงินก็ยังเข้าในบัญชีนั้นอีก หลังจากนั้นพี่ชายตนเองมาคุยไกล่เกลี่ยให้ถอนเงินในจำนวนนั้นออกมาให้หน่อย
ตนก็เลยไปถอนเงินมาให้ เนื่องจากว่าเขามีบุญคุณกับตนชื่อฝากงานให้ ประกอบกับคดีแชร์แม่มณีเกิดเรื่องตนเองกลัวว่าจะเข้าข่ายรับจ้างเปิดบัญชีเพื่อฝอกเงินก็ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.คลองห้า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าจะจัดการให้หมด ในเรื่องคดีนี้เท่าที่ทราบมีคนยอมเปิดบัญชีให้กับนายชัด อู่เจริญ 4-5 คน
นายชัยรัตน์ กล่าวต่ออีกว่า ตนเองโดนสรรพากรอำเภอคลองหลวงเรียกเก็บภาษีก็เลยไปติดต่อและสอบถามเขาว่าเรียกเก็บภาษีเขาเรื่องอะไร ตนเองไปทำอะไรเหรอทางสรรพากรก็ตอบมาว่าคุณไม่รู้เรื่องอะไรเหรอทางเจ้าหน้าที่สรรพากรก็บอกให้ไปเคลียร์กับต้นทาง ซึ่งก็ถามเขาว่าต้นทางคือใครทางสรรพากรก็ตอบว่าก็ อบต.คลองหก
ทางด้านนายปรเมศ รอดราชา พี่ชายของผู้ร้องตอบว่าน้องชายของตนเองไม่รู้เรื่องกับการเปิดบัญชีซึ่งก็สงสัยว่าธนาคารนี้ทำอะไรแปลกๆ ซึ่งก็มีผู้เสียหาย 5 คนไปแจ้งความที่ สภ.คลองห้าเกี่ยวกับการถูกนำชื่อไปเปิดบัญชีกับธนาคารซึ่งก็ยังสงสัยว่าทำไมต้องเอาชื่อของคนอื่นไปเปิดกลัวว่าจะเป็นเงินไม่ดีอาจทำให้น้องของตนเองมีความผิดไปด้วย จึงได้เข้าแจ้งความเอาไว้ที่ สภ.คลองห้า แต่คดีไม่มีอะไรคืบหน้าจึงได้มาร้องสื่อดังกล่าว
