ผู้ใหญ่บ้านแจง ถูกชาวบ้านล่ารายชื่อถอดถอน คาดมาจากตรวจสอบบุกรุกป่าชายเลนทุกแปลง

ผู้ใหญ่บ้านออกโรงชี้แจง กรณีชาวบ้าน ล่ารายชื่อยื่นหนังสือถอดถอน กดดันให้ออกจากตำแหน่ง อ้างไม่ทำงาน-เรียกรับผลประโยชน์ ลั่นชีวิตราชการไม่เคยเรียกรับเงินจากใคร ปกป้องหมู่บ้านและผืนแผ่นดินจนถูกถล่มด้วยอาวุธสงคราม กว่า 44 นัด รอดตายปาฏิหาริย์

จากกรณี กลุ่มชาวบ้าน หมู่ 5 บ้านหัวควน ต.บ้านนา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง กว่า 70 คน นำโดยนายมานิตย์ เพชรเพ็ง อายุ 54 ปี นำหนังสือร้องเรียนรวมทั้งรายชื่อถอดถอน เพื่อเข้ายื่นต่อ นายไพโรจน์ ศรีละมุล นายอำเภอปะเหลียน ให้พิจารณาเรียกร้องให้ตรวจสอบรวมทั้งถอดถอนและให้ นายพิชิต ชายภักดิ์ ผญบ.หมู่ 5 ลาออกจากตำแหน่งหลังจากกล่าวอ้างว่าไม่ทำงาน ไม่อยู่ในพื้นที่ และยังมีการเรียกรับผลประโยชน์ โดยมีนายไชยยา ถิ่นทอง ปลัดอาวุโส เข้ารับหนังสือดังกล่าวแทน เนื่องจากนายอำเภอติดราชการ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ 4 มิ.ย. นายพิชิต ชายพักตร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.บ้านนา ได้กล่าวชี้แจงในประเด็นดังกล่าวว่า ชนวนเหตุที่มาของการยื่นหนังสือถอดถอนของชาวบ้านในครั้งนี้ น่าจะมาจากกรณีที่ตนได้แจ้งตรวจสอบผู้ที่บุกรุกป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติจำนวน 800 ไร่ และเนื้อที่นอกเหนือจากแปลงเฉลิมพระเกียรติอีก 1,200 ไร่ ตนได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หน่วยอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน ที่ 22 (ปะเหลียน) ตรัง เข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวมา ซึ่งมีการตรวจสอบไปแล้วบางราย การเข้าไปตรวจสอบแปลงทุกแปลง

ซึ่งเป็นฉนวนที่เขาตั้งข้อกล่าวหาตนนั้น เรื่องการตั้งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ให้รับเงินส่วนนี้ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย ตนก็ลูกผู้ชายพอถ้าสิ่งที่เขาพูดมามีความเป็นลูกผู้ชายน่าจะเข้าใจ พูดอะไรไปแล้วต้องรับผิดชอบต่อคำพูด ตนไม่เคยรับเงินจากใคร เป็นคนที่มีเหตุผลพอ ถึงแม้ว่าเขาจะทำงานดีแต่เราก็ต้องแยกทางถึงจะทำงานได้ ตนไม่เคยที่จะขายตำแหน่งผู้ช่วยฯ ถ้าตนต้องการขายตำแหน่งจริง นั้นคือการทำงานเพื่อหวังผลประโยชน์

Advertisement

เคยมีคนขอต่อรองนำรถแบคโฮมาขุดดินที่ป่าชายเลนโดยเสนอเงินให้กับตน บอกว่าจะมาขุดที่ภายในหมู่ที่ 5 มีการนำเงินมาเสนอกับตนแต่ตนก็ปฏิเสธไป ถึงแม้ว่าตนรับเงินมาตนก็ไม่สามารถที่จะดูแลรับผิดชอบได้ หลังจากนั้นตนถูกลอบยิงด้วยอาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 จำนวน 44 นัด แต่ตนก็รอดตายมา ทำให้ตนต้องเซฟตัวเอง ต้องระมัดระวังตัว เพราะถูกปองร้าย การทำงานของตนจึงชะลอไปบ้างหลังจากที่รอดตายมาก่อนหน้านี้

หลังจากที่ถูกลอบยิงในครั้งนั้น ก็ไม่นั่งตามบ้านของชาวบ้าน ใครที่จะมาหา ก็ต้องตรวจสอบว่าเขาเป็นใคร รถอะไร เพราะหวาดระแวง เชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านั้นยังอาฆาตแค้นอยู่ บางทีอาจจะรวมตัวกับคนที่เสียผลประโยชน์ในหมู่บ้าน เพื่อจะเอาออกจากตำแหน่งให้ได้ หากไม่สามารถเอาออกจากตำแหน่งได้ครั้งต่อไป เชื่อว่าเขาต้องคิดทำร้ายตนอีกแน่ ก่อนหน้านี้เพื่อนที่เป็นตำรวจก็เตือนไว้ว่าอาจจะมีการลอบทำร้ายอีกครั้ง ตนได้ปรึกษากับนายอำเภอท่านก็ได้ให้กำลังใจ

ชนวนเหตุอีกเรื่อง น่าจะเกิดมาจากที่ตนได้แต่งตั้งผู้ช่วยฯ คือ นายสาคร ได้เสนอแต่งตั้งเรียบร้อยแล้วแต่ผลปรากฏว่าพบลายนิ้วมือไปปรากฏว่าเคยถูกจับกุมพืชกระท่อมซึ่งเป็นยาเสพติด ไม่สามารถแต่งตั้งเป็นฝ่ายปกครองได้ การแต่งตั้งจึงไม่สำเร็จเขาจึงรวมเป็นหนึ่งกับแกนนำว่าไม่แต่งตั้งเขาเป็นผู้ช่วยฯ เขาเป็นญาติของแม่ยายตน เมื่อแต่งตั้งไม่ได้เขาได้ให้ผู้ช่วยฯที่ทำงานกับตนนั้นลาออกเพื่อกดดันและบีบให้ตนออกจากตำแหน่ง

Advertisement

พร้อมขู่ว่าให้ลาออกถ้าไม่ออกจะถูกไล่ ตนก็งงว่าทำผิดอะไร พร้อมเข้าสู่กระบวนการของกฎหมาย แต่อยากฝากถามว่าที่ผ่านมาคุณเคยทำอะไรเพื่อชุมชนบ้าง ดีกว่าการมากล่าวหาตนแบบนี้ ฝากถึงแกนนำที่เคยเป็นผู้นำหรือยังเป็นผู้นำอยู่ตอนนี้ด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image