จนท.บังคับคดี พบครอบครัวสาวเป็นหนี้มือถือ แจ้งยอดเงินเหลือคืน ขายที่ดิน

จนท.บังคับคดี พบครอบครัวสาวเป็นหนี้มือถือ แจ้งยอดเงินเหลือคืน ขายที่ดิน

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.63 จ.ส.อ.พัฒณปกรณ์ ดอนตุ้มไพร เจ้าหน้าที่ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายทรงธรรม เกิดคุณธรรม นายก อบต.ศรีภิรมย์ อ.พรหมพิราม ได้ต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่จากสำนักอัยการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ยุติธรรมจังหวัดพิษณุโลก และเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี ปลัดอำเภอพรหมพิราม ได้เดินทางมาที่ บ้านเลขที่ 94/2 หมู่ 1 ต.ศรีภิรมย์ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก

โดยมีนางสุรีพร  ศรีทอง อายุ 38 ปี และพ่อ คือ นายประเสริฐ ศรีทอง อายุ 76 ปี และอีก 2 ครอบครัว ในแปลงที่ดิน 4 ไร่ หลังจากนางสุรีพร  ศรีทอง ได้ซื้อมือถือด้วยระบบเงินผ่อนจากร้านมือถือรายหนึ่ง แต่ผ่อนไปได้เพียง 2 งวด จากนั้นไม่สามารถผ่อนส่งตามสัญญาได้ กระทั่งสู่กระบวนการศาล และถูกกรมบังคับคดี สืบทรัพย์และยึดทรัพย์ ขายทอดตลาดตามที่เสนอข่าวมาแล้วนั้น

จ.ส.อ.พัฒณปกรณ์ ดอนตุ้มไพร กล่าวว่า คณะข้าราชการได้มาพบกับเจ้าของที่ดิน และสำรวจที่ดินและบ้าน เพื่อเตรียมดำเนินการไกล่เกลี่ย และอาจซื้อคืนที่ดินกับผู้ประมูลที่ดิน 4 ไร่ ให้มาตกลง ขายคืน กับเจ้าของที่คนเดิม แต่ยังไม่รู้ผลว่า เป็นอย่างไรต่อ เนื่องจากจะต้องรอเรื่องที่ได้ร้องเรียนจากศูนย์ดำรงธรรมซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกลงนามและส่งรายละเอียดมาก่อน

Advertisement

นอกจากเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี ได้สำรวจที่ดินทั้งหมด พร้อมกับนำบัญชีเงินที่เหลือ จากผู้ที่ชนะการประมูลทรัพย์ จำนวนเงิน 530,000 บาท และหักส่วนที่ค้างชำระค่าโทรศัพท์มือถือมาแจ้งให้ ที่ถูกยึดทรัพย์ไป แต่ทั้ง 3 ครอบครัว ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินร่วม ยังไม่มีผู้ใด กล้าเซ็นรับเงิน ทั้งนี้หวั่นเกรงว่าหากเซ็นรับเงินส่วนที่เหลือแล้วจะเป็นอย่างไรต่อ แต่ทางเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี ได้ทำบัญชีเรียบร้อยพร้อมติดประกาศไว้ให้ทราบ

อย่างไรก็ตาม ทางปลัดอำเภอพรหมพิรามแจ้งว่า จะนัดผู้ที่ชนะการประมูลทรัพย์สินจากกรมบังคับคดี มาเพื่อตกลงเจรจาซื้อขายที่ดินคืนอีกครั้ง ซึ่งก็ไม่รับว่าจะสามารถตกลงซื้อคืนได้ในราคาเท่าใดหรือจะซื้อคืนได้หรือไม่

Advertisement

ขณะที่นางสุรีพร ศรีทอง เปิดเผยว่า วันนี้มีเจ้าหน้าที่ได้ลงไปตรวจสอบพื้นที่ พร้อมเจรจาพูดคุยโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยแจ้งยอด หรือตัวเลข ซึ่งมีผู้ชนะการประมูลทรัพย์ซื้อที่ดินไปจำนวน 530,000 บาท มาแจ้งกับตนกับครอบครัวว่า มียอดเงินเหลือ และให้เซ็นรับทราบ แต่ตนและครอบครัวไม่ยอมเซ็น เนื่องจากหวั่นเกรงว่าจะมีปัญหาในภายหลัง

สำหรับยอดเงินที่กรมบังคับคดีระบุ คือ พ่อตน และพี่ชาย มียอดเงิน 176,000 บาทเศษ ส่วนยอดเงินของตน เหลือ 120,000 บาทเศษ หลังจากหักค่าค้างชำระโทรศัพท์มือ จากนั้นกรมบังคับคดีก็ติดประกาศยอดไว้ตามยอดที่แจ้ง เพื่อดำเนินการคืนเงินต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image