เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. แถลง พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผบก.บก.สปพ. พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี พ.ต.อ.สมบรูณ์ เทียนขาว รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ พ.ต.ต.ไพบูลย์ สอโส สว.งานสายตรวจ 1 และชุดสืบสวน กก.สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ บก.สปพ. จับกุม นายวิศรุต หรือแชมป์ สงวนนามสกุล อายุ 27 ปี นายภานุพงษ์ หรือชง อายุ 30 ปี นายฐิติพงศ์ หรือขุน อายุ 23 ปี นายกิตติพงษ์ หรือหมู อายุ 28 ปี พร้อมของกลาง รถยนต์ 1 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน ยาไอซ์ 1.27 กิโลกรัม ยาบ้า 190,000 เม็ด ได้บริเวณบ้านเลขที่ 8/306 หมู่บ้านแห่งหนึ่ง วัชรพล-เพิ่มสิน ถนนเพิ่มสิน แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องที่ซุกซ่อนห้องเช่าเลขที่บี5 อิมเพ็ชร์อพาร์ตเมนต์ ซอยวัชรพล 6 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร
พล.ต.ท.ภัคพงศ์เปิดเผยว่า ตำรวจ บก.สปพ.รับแจ้งข่าวสารจากในพื้นที่ว่าจะมีผู้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดบริเวณพื้นที่เขตสายไหม ภายหลังขยายผลจับกุมยาบ้า 2 ล้านเม็ดจากพื้นที่ดอนเมือง กระทั่งทราบว่า กลุ่มเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มนี้พักอาศัยอยู่หมู่บ้านในพื้นที่วัชรพล-เพิ่มสิน ถนนเพิ่มสิน แขวงสายไหม เขตสายไหม และซุกซ่อนยาเสพติดไว้ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในซอยวัชรพล 6 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร มีนายวิศรุตเป็นหัวหน้าคอยสั่งการในการรับและส่งยาเสพติด ตำรวจจึงวางแผนเพื่อเข้าจับกุมเครือข่ายทั้งหมดภายในสถานที่ซุกซ่อนยาเสพติดและสถานที่กบดานของเครือข่ายเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.สำราญกล่าวว่า ตรวจสอบพบว่ายาเสพติดเหล่านี้ถูกลำเลียงมาจากภาคอีสาน ก่อนกลุ่มผู้ต้องหานำยาเสพติดมาซุกซ่อนในเขตปริมณฑลเพื่อนำมาจำหน่ายในเขตสายไหมและเขตดอนเมือง จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าทำอาชีพส่งยาเสพติดเป็นหลัก โดยมารับงานส่งยาเสพติดมาตั้งแต่ ปี 2558 และจำหน่ายยาเสพติด โดยรายได้จากการส่งยาเสพติดครั้งละ 100,000 บาท มาแบ่งกัน 4 คน ตรวจสอบประวัติทราบว่านายวิศรุตเคยโดนจับกุมข้อหาครอบครองยาเสพติด ปี 2561 นายภานุพงษ์ หรือชง เคยถูกจับกุมข้อหาครอบครองยาเสพติด ปี 2559 และนายกิตติพงษ์ หรือหมู เคยถูกจับกุมข้อหาครอบครองยาเสพติด ปี 2559 เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือ ไอซ์ และยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.สายไหม ต่อไป
