ส.ท.ที่ถูกคนบ้านเดียวกันใช้ขวานฟันหัวจนบาดเจ็บสาเหตุ คนก่อเหตุให้การถูก ส.ท.กีดกันไม่ให้พบกับเมียที่หนีไป ล่าสุดเผย ส.ท.เป็นคนดี ชอบไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้คนในหมู่บ้าน กรณีนี้มือขวานน่าจะเข้าใจผิด ประกอบกับเคยไกล่เกลี่ยมาแล้ว 2 ครั้ง แต่เหมือนเดิม เมียเลยไม่เอา
วันที่ 18 มิ.ย. กรณีนายสุพรรณ์ พิมพ์อักษร อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 254 หมู่ 4 ต.ชำนิ อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ใช้ขวานฟันหัวและใช้ด้ามขวานทุบนายอำนวย ผลเต็ม อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 ม.1 ต.ชำนิ อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ และเป็นสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) ต.ชำนิ อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ฟันหักหลุดไป 5 ซี่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ซึ่งจากการสอบสวนนายสุพรรณ์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ที่ทำไปเพราะคิดว่านายอำนวย ซึ่งเป็นญาติกับภรรยาเก่า กีดกัน ไม่ให้พบภรรยาเก่าของตนซึ่งเลิกกันไปแล้ว แต่ตนต้องมีภาระเลี้ยงดูลูกวัย 4 ขวบ กับ 6 ขวบ โดยลำพัง
ความคืบหน้าล่าสุด ผู้บาดเจ็บยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลนางรอง อาการพ้นขีดอันตรายแต่ต้องรักษาต่อ เพราะฟันหัก 5 ซี่ ขณะชาวบ้านที่ทราบเหตุ ต่างออกมาเห็นใจ ส.ท. เพราะที่ผ่านมาจะเป็นคนไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้กับชุมชนมาโดยตลอด
นางอุดม สืบรัมย์ อายุ 73 ปี อยู่เลขที่ 7 หมู่ 1 ต.ชำนิ อ.ชำนิ กล่าวว่า ปกตินายอำนวย ซึ่งเป็น ส.ท.ในพื้นที่จะถูกขอให้ช่วยพูดไกล่เกลี่ยปัญหาในครอบครัวเป็นประจำ จนเป็นที่รู้จัก
เคสนี้ ก็ไกล่เกลี่ยให้ถึง 2 ครั้ง แต่ฝ่ายชายมักจะทุบตีภรรยาเป็นประจำ ทำให้ภรรยาต้องหนีไปอีกรอบ 2 การกระทำของนายสุพรรณ์ ถือว่ารุนแรงเกินไป ทั้งที่อีกฝ่ายไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน
ขณะที่นางบาง พิมพ์อักษร อายุ 79 ปี เลขที่ 157 ม.8 ถ.ชำนิ-ลำปลายมาศ อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ แม่ของนายสุพรรณ์ บอกว่า ปกติลูกชายไม่ใช่คนหาเรื่องคน และก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าลูกกับ ส.ท.มีเรื่องอะไรกัน ไม่เคยมาพูดให้ฟัง นานๆ จะมาเอาข้าวสารไปกิน ไม่รู้เรื่องราวของลูกชาย มีคนมาบอกว่าลูกชายตนเอาขวานไปทำร้าย ส.ท. ตนรู้ข่าวก็เสียใจ แต่ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าหลาน 2 คน ใครจะเป็นคนเลี้ยงต่อ หากลูกชายติดคุก
ตั้งแต่เกิดเหตุยังไม่ได้เห็นหน้าลูก แต่ก็ไม่มีเงินไปประกันตัว ทุกวันนี้มีลูกชายคนเล็กคอยเลี้ยงดูตน ตอนนี้ลูกของนายสุพันธุ์ ตนก็ต้องเอามาเลี้ยงดู เปิดเทอมยังไม่รู้จะทำอย่างไร
เช่นเดียวกับ น.ส.กาญจนา ขวัญเต็ม อายุ 35 ปี ลูกสาว ส.ท. บอกว่า การกระทำดับกล่าวถือว่ารุนแรงเกินไป เพราะไม่มีการสอบถามใดๆ ทั้งที่เป็นคนบ้านเดียวกัน ปกติพ่อไม่เคยมีศัตรู ไม่เคยมีเรื่องกับใคร จึงไม่มีการระวังตัว สังคมไทยทุกวันนี้ ”อยู่ยาก”
