‘บรรยิน’ ขอใส่ตรวน แทนกุญแจ เท้า อ้างเป็นโรคสะเก็ดเงิน ราชทัณฑ์แจง ‘ขังเดี่ยว เยี่ยงสัตว์’
จากกรณีพ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ผู้ต้องหาคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา อดีตเจ้าของสำนวนโอนหุ้นเสี่ยชูวงศ์ เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 63ได้เดินทางมาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในวันนี้ (22 มิ.ย) ตามที่ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน และต่อมาได้แถลงต่อศาล โดยระบุตอนหนึ่งว่า ถูกจับขังเดี่ยว ถูกใส่ตรวนตลอดเวลา และปฎิบัติเยี่ยงสัตว์ ไม่มีโอกาสดูเอกสารทั้ง 10 แฟ้มจะให้ทนายทำให้ ตนก็เสียเปรียบ เพราะทนายไม่ได้ไปอุ้มกับตนด้วย
รวมทั้งหลักฐานที่เป็นคลิปจากกล้องวงจรปิดที่ต้องใช้เเครื่องมือตรวจสอบ ถ้าได้ประกันตัวก็รับได้ เนื่องจากต้องไปสืบพยานที่ศาลอาญาพระโขนงทุกสัปดาห์ ส่วนรายงานข่าวที่ระบุว่า ตนจะแหกจะคุกนั้นไม่รู้เรื่อง อยู่ในเรือนจำถูกพันธนาการตลอด จนเครียดมากถึงขั้นผูกคอตาย
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. แหล่งข่าวรระดับสูงกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า สำหรับห้องขังเดี่ยวของพ.ต.ท.บรรยิน เป็นเพียงห้องที่แยกจากผู้ต้องขังรายอื่น ไม่ให้พบประพูดคุยกับนักโทษรายอื่น ห้องขนาดไม่กว้างมากไม่ใช่ห้องปิดทึบ ส่วนเรื่องอาหารหารการกินจะผู้ช่วยนักโทษนำมาให้ตามเวลา และระหว่างที่ถูกคุมขังก็ต้องใส่ตรวน ซึ่งเป็นเครื่องพันธนาการตามระเบียบของราชทัณฑ์ เนื่องจากผู้ต้องขังมีพฤติการณ์ หลบหนี เรือนจำสามารถใช้เครื่องพันธนาการควบคุมได้ ทั้งนี้การออกศาลเจ้าหน้าที่ก็มีความจำเป็นต้องใช้ตรวน หรือกุญแจเท้า แต่กรณีของพ.ต.ท.บรรยิน ขอเลือกใช้ตรวน โดยผู้ต้องขังระบุว่าเป็นโรคสะเก็ดเงิน ใช้ตรวจจะทำให้เสียดสีน้อยลง ซึ่งเรือนจำก็อนุโลมตามคำขอ


“ข้อมูลที่พ.ต.ท.บรรยิน ออกไประบุว่าถูกปฏิบัติเยี่ยงสัตว์ คงเป็นคำกล่าวอ้างเกินเลยไป กรมราชทัณฑ์คงไปทำอย่างนั้นไม่ได้ ตอนนี้มีหลักปฏิบัติตามมาตรฐานขั้นต่ำของสหประชาติ(ยูเอ็น) ที่ต้องปฏิบัติกับผู้ต้องขังที่ระบุไว้ แต่ระเบียบบางอย่างพรบ.ราชทัณฑ์ นั้น เรือนจำสามารถดำเนินการได้ เช่นการขังเดี่ยว เพื่อแยกขังเพื่อการควบคุมไม่ให้พบใครตามแต่ละเหตุผล หรือเหตุการณ์ หรือขังเดี่ยวเพื่อลงโทษ ซึ่งเรือนจำสามารถทำได้แต่มีระยะเวลากำหนด คือ 3 เดือน กรมราชทัณฑ์ทำตามขั้นตอนไม่ได้” แหล่งข่าวรระดับสูงกรมราชทัณฑ์กล่าว